บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) และ บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผนึกกำลังดึงศักยภาพ 3 แบรนด์ ร่วมปั้น "ฟิ้วซ์ โพสต์" (FUZE POST) ธุรกิจขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน (Cold Chain Express) น้องใหม่ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจ Cold Chain Logistics ประเทศไทย พร้อมให้บริการ 1 ก.ย.64
ทั้งนี้ ระยะแรกจะเน้นให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 6 เส้นทางภูมิภาค คือ หนองคาย เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ตราด และบางละมุงเป็นหลักก่อนสำหรับลูกค้ารูปแบบ B2B B2C และ C2C ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเดิมของไปรษณีย์ไทย และ JWD สำหรับลูกค้าใหม่จะเน้นการให้บริการแบบ Direct Pick-up เป็นหลัก โดยเรียกใช้บริการผ่าน www.fuzepost.co.th และมีแผนจะเปิดให้บริการจุดรับฝาก (Drop off) ขยายเส้นทางขนส่งระหว่างภูมิภาคในเดือน ม.ค.65
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD เปิดเผยว่า จากการที่ JWD เป็นผู้นำตลาดและดำเนินธุรกิจด้าน Cold Chain Logistics & Supply Chain มากว่า 25 ปี มีองค์ความรู้และความชำนาญครบทั้งในด้าน คลังจัดเก็บและบริหารจัดการสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ศูนย์กระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิ การขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ รวมไปถึงการบริหารจัดการซัพพลายเชนของธุรกิจอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตหรือแปรรูปอาหาร โดยทั้งหมดนี้ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญทางด้านระบบควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า เทคโนโลยีในการบริหารจัดการอุณหภูมิตลอดทั้งซัพพลายเชน ตลอดจนเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม
ที่ผ่านมา JWD ได้ให้บริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิให้กับกลุ่มลูกค้า B2B มากว่า 15 ปี และได้เปิดบริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน หรือ Cold Chain Express ให้กลุ่มลูกค้า B2C และ C2C มาเป็นระยะเวลา 2 ปี ภายใต้ชื่อ JWD Express ดังนั้น การผนึกกำลังร่วมกับไปรษณีย์ไทย และ Flash Express ในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวที่สำคัญที่สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในธุรกิจ Cold Chain Express และเป็นการขับเคลื่อนการเติบโตธุรกิจทางด้าน e-Commerce ตามแผนธุรกิจ 5 ปีที่ได้วางไว้ JWD เชื่อมั่นว่าการเอาจุดแข็งของพันธมิตรแต่ละฝ่ายมารวมกันในครั้งนี้ ภายใต้แบรนด์ ฟิ้วซ์ โพสต์ จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายในอนาคต
บริการขนส่งระบบควบคุมอุณหภูมิ ฟิ้วซ์ โพสต์ จะเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.ย.64 เป็นต้นไป โดยวันนี้จะเริ่มเปิดเว็บไซต์ฟิ้วซ์ โพสต์ ในเวลา 15.00 น.เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจเข้าไปศึกษารายละเอียด และทดลองเยี่ยมชมบริการก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ซึ่งช่วงแรกจะให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล สำหรับลูกค้าใหม่จะเป็นบริการรับฝากสินค้าในรูปแบบ Pick-up service ก่อนขยายบริการจุดรับสินค้า Pick-up point ไปตามสาขาของไปรษณีย์ไทยในระยะต่อไป
จากนั้นช่วงต้นปี 65 บริการของ ฟิ้วซ์ โพสต์ จะขยายไปสู่การรับ-ส่งสินค้าในระบบควบคุมอุณภูมิไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อให้ครอบคลุมการบริการทั่วประเทศ และจะมีการขยายบริการไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV เพิ่มเติม เพื่อสร้างโอกาสในการขยายตลาดและเพิ่มฐานลูกค้า โดยในช่วงต้นปี 65 จะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง JWD ไปรษณีย์ไทย และ Flash Express เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจอย่างจริงจัง และช่วยกันผลักดันให้บริการของ ฟิ้วซ์ โพสต์ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาด Cold Chain Express
สำหรับความคาดหวังของ JWD เชื่อว่าธุรกิจฟิ้วซ์ โพสต์ จะช่วยผลักดันรายได้ในธุรกิจ Cold Chain ของบริษัทให้เติบโตขึ้นได้เท่าตัว หรือแตะ 200 ล้านบาทภายในปี 65 จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 100 ล้านบาท และช่วยขยายฐานลูกค้าของ JWD ให้กว้างมากขึ้น ซึ่งจะมีกลุ่มลูกค้าที่เป็น B2C และ C2C เข้ามาเสริม ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของ ฟิ้วซ์ โพสต์ ที่จะเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าในช่วงแรกที่ให้บริการของฟิ้วซ์ โพสต์ จะเป็นกลุ่ม B2C และ C2C เป็นหลัก ซึ่งจะขยายไปต่อยอดลงมาจากกลุ่มลูกค้า B2B ที่ไปรษณีย์ไทยมีจำนวนกลุ่มลูกค้าแบบ B2B เป็นจำนวนมาก คาดว่าตั้งแต่เริ่มเปิดบริการในวันที่ 1 ก.ย. ถึงสิ้นปี 64 คาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ฟิ้วซ์ โพสต์ มากกว่า 1,000 ราย
บริการขนส่งแบบ Cold chain express ในปัจจุบันถือว่ามีความต้องการมาก เนื่องจากปัจจุบันมีการขายสินค้าประเภทของสดและผลไม้ต่างๆผ่านช่องทาง E-commerce และ Social commerce เป็นจำนวนมาก ทำให้ตลาดขนส่งแบบ Cold chain express มีการเติบโตค่อนข้างมากถึง 8-10% ต่อปี โดยปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 3.4 หมื่นล้านบาท ประกอบกับยังเป็นตลาดที่มีผู้เล่นในตาดน้อยราย ซึ่งมีผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดอยู่แล้วเพียง 2-3 ราย ทำให้ไปรษณีย์ไทยและพันธมิตเข้ามาคว้าโอกาสในการต่อยอดธุรกิจในครั้งนี้
"โอกาสในธุรกิจ Cold chain express มีสูงมาก ตอนนี้แม้ว่าไซส์ตลาดจะยังไม่ใหญ่มาก หรือมีสัดส่วนเพียง 5% ของบริการขนส่งทั้งหมด แต่อัตราการเติบโตในระดับสูง 8-10% ต่อปี และผู้เล่นในตจลาดไม่มาก ทำให้มีโอกาสอีกมากในตลาดนี้ จากการที่ปัจจุบันเราเริ่มเห็นว่ามีคนมาขายของสดและผลไม้ผ่าน E-commerce และโซเชียลมากขึ้น ทำให้มีความต้องการใช้การขนส่งแบบ Cold chain express ที่มากขึ้น ซึ่งเราสามารถนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเข้ามาต่อยอดในการพัฒนาบริการ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเข้ามาขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น และก้าวเป็นผู้นำในธุรกิจนี้"นายดนันท์ กล่าว
นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด กล่าวว่า จากการเติบโตของตลาดขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ หรือ Cold Chain Logistics ในประเทศไทย Flash Express เล็งเห็นถึงโอกาสในการเข้ามาทำตลาดในกลุ่มธุรกิจ Cold Chain จึงจับมือร่วมทุนกับผู้นำในตลาดอีก 2 บริษัท ในการรุกตลาด Cold Chain Logistics โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย และในอาเซียนต่อไป
การนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ Flash Expres เข้ามาขับเคลื่อนในธุรกิจ Cold Chain เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยการต่อยอดธุรกิจไปสู่บริการในด้านอื่นๆที่สามารถตอบโจทย์แก่ผู้บริโภคยุค New normal และ Next normal ที่เปลี่ยนพฤติกรรมจากออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์มากขึ้น พร้อมกับทีมงาน IT ของ Flash Express กว่า 100 คน ยังได้เตรียมวางระบบขนส่งในรูปแบบ Cold Chain Management System ทั้งในส่วนของ Fast optimization and tech adaption (การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมาปรับปรุงระบบให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน และแก้ไขปัญหาอย่างท่วงทัน ท่วงที), Cloud computing (การคำนวณด้วยเทคโนโลยี), System infrastructure ตลอดจนการวางระบบเชื่อมการทำงานเข้ากับระบบปฏิบัติการ (Application Programming Interface: API),ระบบจัดการคำสั่งซื้อ (Order Management System: OMS)