นายสุรศักดิ์ โอสถานุเคราะห์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) (CNT) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 ฟื้นกลับมาแตะระดับ 7 พันล้านบาท โดยบริษัทคาดหวังสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจะเริ่มคลี่คลายลงตั้งแต่ไตรมาส 4/64 เป็นต้นไป และจะเริ่มกลับมาดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงต้นปีหน้า ส่งผลให้การก่อสร้างงานที่บริษัทดำเนินการอยู่สามารถทำได้อย่างไม่มีอุปสรรค และการส่งมอบงานต่างๆ เป็นไปตามแผน
อีกทั้งการที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศดีขึ้นกลับมา ยังเป็นผลบวกต่อการลงทุนของภาคเอกชนที่จะกลับมามากขึ้น จากที่ปัจจุบันชะลอลงไปมาก เนื่องจากยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า หากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ลดลงชัดเจนในปี 65 ภาคเอกชนก็จะเริ่มกลับมาลงทุนโครงการใหม่ๆ มากขึ้น จะเข้ามาเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้บริษัทสามารถเข้าไปรับงานได้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันงานส่วนใหญ่ที่ทยอยออกมาในขณะนี้เป็นงานโครงการภาครัฐ ดังนั้น การมีงานจากภาคเอกชนเข้ามาเพิ่มเติมจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เข้ามาสนับสนุนการเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) และสนับสนุนการฟื้นตัวของรายได้ในปี 65 เนื่องจากงานของภาคเอกชนส่วนหนึ่งจะเป็นงานระยะสั้นสามารถรับรู้รายได้เข้ามาได้เร็ว
"ปีหน้าเราคาดหวังว่าโควิดคลี่คลายจะทำให้ภาคเอกชนกลับมาลงทุนมากขึ้น จากที่เกือบ 2 ปีที่ผ่านมางานภาคเอกชนหายไปค่อนข้างมาก ทำให้งานใหม่ๆ ออกมาน้อย กระทบต่องานในมือของเราที่ลดลงมา ก็มีผลกระทบต่อรายได้ในปีนี้ด้วย และไม่มีงานระยะสั้นจากภาคเอกชนที่เข้ามาเสริมรายได้ แต่ถ้าปีหน้าทุกอย่างกลับมาดี ก็มองว่ารายได้เราจะฟื้นตัวขึ้น และตอนนี้งานที่เรารับเราก็ดูในส่วนของ Bottom line เข้ามาพิจาราณาค่อนข้างมาก งานภาคเอกชนจะเป็นงานที่เราสามารถสร้าง Top และ Bottom line ได้ค่อนข้างดี"นายสุรศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยอมรับว่าผลกระทบจากโควิด-19 จะเห็นผลกระทบค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังของปี 64 มาตรการล็อกดาวน์ที่มีการปิดแคมป์คนงานทำให้ก่อสร้างหยุดชะงักชั่วคราว 1-2 เดือน และกระทบต่อการส่งมอบงาน ทำให้รายได้ครึ่งปีหลังชะลอตัวจากครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 3.5 พันล้านบาท แต่บริษัทยังคงเป้ารายได้ทั้งปี 64 ไว้ที่ 6.7 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ 7.5 พันล้านบาท้
ปัจจัยจากมาตรการปิดแคมป์คนงานส่งผลกระทบต่อการรับรู้รายได้จาก Backlog ในช่วงครึ่งปีหลังที่อาจจะส่งมอบงานและการรับรู้รายได้ต่ำกว่าที่บริษัทคาดการณ์เล็กน้อยมาที่ 2.9-3 พันล้านบาท จากเป้าหมาย 3.2 พันล้านบาท เพราะการปิดแคมป์คนงานกระทบต่อการส่งมอบงานบางโครงการ โดยปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ 8.81 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่เข้ามาต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีงานที่ติดตามและเตรียมทยอยเข้าประมูลตั้งแต่ช่วงที่เหลือของปีนี้เป็นต้นไปมูลค่ารวมกว่า 7.5 พันล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะได้รับงานใหม่เข้ามา 2 โครงการ เป็นงานขนาดกลางและขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมสรุปรับงานและเซ็นสัญญา คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายไตรมาส 3/64 ถึงต้นไตรมาส 4/64
อีกทั้งบริษัทยังมีการรับงาน EPC ขนาดเล็กเข้ามาอีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 300-400 ล้านบาท และทำให้ Backlog ปลายปีนี้น่าจะปรับเพิ่มขึ้นมาแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท