นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงการจัดงาน "Thailand Focus 2021 : Thriving in the Next Normal" ระหว่าง 25-27 ส.ค.64 ว่า การจัดงานในปีนี้มีผู้ลงทุนสถาบันทั้งหมด 192 ราย จาก 105 สถาบันทั่วโลก และมีผู้ลงทุนรายบุคคลจากต่างประเทศ มีจำนวน 110 ราย มากกว่าปีก่อนที่มี 88 ราย เข้าร่วมเข้ามาลงทะเบียนเพื่อรับฟังข้อมูลทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนที่มานำเสนอกลยุทธ์การรับมือและการปรับตัวของธุรกิจไทย และพร้อมรองรับการแข่งขันทางธุรกิจในอนาคต
ส่วนใหญ่มาจากสิงคโปร์และฮ่องกงมากกว่า 50% ส่วนอีกราว 50% เป็นนักลงทุนจากสหราชอาณาจักร, สหรัฐ และประเทศใหม่ๆ ในภูมิภาคอาเซียนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมงาน อาทิ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และ เวียดนาม สะท้อนถึงการที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทยยังอยู่ในความสนใจของผู้ลงทุนสถาบัน
ขณะที่มีผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) เข้ามาร่วมให้ข้อมูลภายในงานรวมกันกว่า 102 บริษัท
นายภากร กล่าวว่า ในการเปิดงานวันนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้ปาฐกถาพิเศษ "Shaping Thailand's Readiness for Post COVID-19 Economic Opportunities" เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลกถึงความพร้อมทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยปัจจุบันไทยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่อง จากตัวเลขการส่งออกขยายตัวเกือบ 16% ในช่วงครึ่งแรกของปี 64 พร้อมย้ำมาตรการฟื้นฟูทั้งระยะกลางและระยะยาว และในปี 65 รัฐเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องภายใต้ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนตามโมเดลเศรษฐกิจยั่งยืน
"แม้ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจทั่วโลกยังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะหยุดนิ่งไม่ได้ เพราะภาคเศรษฐกิจมีส่วนในการขับเคลื่อนการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ของภาคประชาชน แต่ธุรกิจจะเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้ช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงได้ดีและทันการณ์เพียงใด
การจัดงาน Thailand Focus ปีนี้ มีผู้ลงทุนสถาบัน 192 ราย จาก 105 สถาบันทั่วโลกเข้าร่วม ทั้งการรับฟังข้อมูลที่ภาครัฐภาคเอกชนที่มานำเสนอกลยุทธ์การรับมือและการปรับตัวของธุรกิจไทย และพร้อมรองรับการแข่งขันทางธุรกิจในอนาคต และการประชุมซักถามข้อมูลโดยตรงจากผู้บริหารระดับสูงของ บจ. 102 บริษัท สะท้อนถึงการที่ไทยอยู่ในความสนใจของผู้ลงทุนสถาบัน ซึ่งการจ้ดงานแบบ virtual conference นี้เปิดโอกาสให้เข้าถึงผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น" นายภากรกล่าว
นายภากร กล่าวอีกว่า ความน่าสนใจของตลาดทุนไทย มองว่า บจ.ไทยมีความสามารถแข่งขันได้ เพราะมีสัดส่วนกว่า 47% ที่มีรายได้จากต่างประเทศและมีหลากหลายกลุ่มที่เป็นชั้นนำในระดับโลก เช่น กลุ่มเกษตร,อาหาร,การค้า,สาธารณสุข และการท่องเที่ยว รวมถึงยังมีการปรับตัวในช่วงสถานการณ์โควิดได้รวดเร็วและดี สะท้อนได้จากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ซึ่งที่สำคัญมีการใช้เทคโนโลยี,ระบบกรีน ในขณะเดียวกันยังมีการทำ ESG เข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นกระแสที่นักลงทุนทั่วโลกตื่นตัวและช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ตลท. อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการหาแนวทางหรือเอื้อให้บริษัทต่างชาติเดินหน้าเข้ามาระดมทุนในประเทศไทยได้สะดวกมากขึ้น พร้อมกันนี้อยู่ระหว่างศึกษาการนำผลิตภัณฑ์การลงทุนในต่างประเทศเข้ามาบริการให้แก่นักลงทุนไทยมากขึ้นด้วย