(เพิ่มเติม) KASET คาดปี 50 ทำรายได้ 1.45-1.50 พันลบ.โต 15% จากปี 49

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 16, 2007 14:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ. ไทยฮา(KASET) คาดว่า รายได้รวมปีนี้จะอยู่ที่ 1,450- 1,500 ล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,239.25 ล้านบาท โดยรายได้มาจากการเติบโตของทุกผลิตภัณฑ์ เช่น วุ้นเส้น ข้าวหอมมะลิ ธัญพืช และสินค้ากึ่งสำเร็จรูปที่บริษัทได้มีการพัฒนาและวางตลาดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เช่น โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป และวุ้นเส้นคัพ
ทั้งนี้ คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/50 จะสามารถพลิกมาเป็นกำไรจากที่ขาดทุนประมาณ 5 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 2/50 หลังจากบริษัทได้มีการลงทุนด้านโฆษณาและนำเข้าสินค้ามาจำหน่ายในประเทศ
สาเหตุที่มั่นใจว่าจะพลิกเป็นกำไรเนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีการควบคุมค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังได้รับผลดีจากการปรับขึ้นราคาจำหน่ายวุ้นเส้นประมาณ 10% ในช่วงต้นไตรมาส 3/50 มาอยู่ที่ประมาณ 1 พันบาท/หีบ จากเดิม 900 บาท/หีบ ตามราคาวัตถุดิบหลัก คือ ถั่วเขียวและพืชไร่ชนิดอื่นๆ ที่ปรับสูงขึ้นประมาณ 20-30%
อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มขึ้นของวัตถุดิบไม่ได้กระทบต่อบริษัทมากนัก เพราะได้มีการสต๊อกสินค้าไว้รองรับการผลิตในช่วงไตรมาส 3-ไตรมาส4/50 ในขณะที่สินค้าประเภทอื่นคงจะไม่มีการปรับขึ้นราคาไปจนถึงสิ้นปีนี้
นายสมฤกษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 50% จาก 30-40% ในปีก่อน หลังจากบริษัทเน้นทำการตลาดและลงทุนสร้างแบรนด์สินค้า ซึ่งแม้จะมีสัดส่วนส่งออกสูงขึ้น แต่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า เนื่องจากได้ทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้แล้วที่ 34 บาท/ดอลลาร์สำหรับทุกสัญญาสั่งซื้อสินค้า
นายสมฤกษ์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะเพิ่มสินค้ากึ่งสำเร็จรูปอีก 1-2 ชนิดในปี 51 เนื่องจากตลาดยังมีความต้องการค่อนข้างมาก และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า อีกทั้งสินค้ากึ่งสำเร็จรูปยังมีมาร์จิ้นสูงกว่าเท่าตัวจากสินค้าปกติ โดยบริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากสินค้ากึ่งสำเร็จรูปเพิ่มเป็น 10% ในปีหน้าจากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 5% ที่เหลือมาจากข้าวหอมมะลิบรรจุถุง 70% วุ้นเส้น 10% และธัญพืช 10%
"เราเชื่อว่ามาร์เก็ตแชร์สินค้ากึ่งสำเร็จรูปจะเห็น 15% ในปีนี้จากมูลค่าตลาดรวม 700 ล้านบาท และในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ภายใต้มูลค่าตลาดรวมที่เพิ่มเป็น 750 ล้านบาท"นายสมฤกษ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ