บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) ยอมรับปี 50 รายได้ทรงตัวจากปี 49 เนื่องจากงานในช่วงปลายปีชะลอออกไป แต่มั่นใจปีหน้าฟื้นตัวจากงานที่มีอยู่ และตั้งเป้าขยายตลาดส่งออก เพิ่มสัดส่วนเป็น 10% จาก 2% ใน 2-3 ปีข้างหน้า
"ยอมรับว่าแนวโน้มรายได้ในปี 50 อาจจะทำได้เพียงทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 49 โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายังมองธุรกิจและรายได้มีแนวโน้มเติบโตได้ในอัตรา 5-10% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากไตรมาสที่ 3/50 ผ่านพ้นไปก็พบว่าสถานการณ์ของของธุรกิจเริ่มไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ " นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร L&E กล่าว
เนื่องจากงานบางส่วนที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายปีได้ชะลอออกไปเป็นปีหน้า ทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ประเภทโรงแรมและศูนย์การค้าที่ชะลอการก่อสร้างมาตั้งแต่ต้นปี และงานปรับปรุง รวมไปถึงการเปลี่ยนรูปแบบการตกแต่งของศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และโครงการขนาดใหญ่ก็ชะลอไปด้วยเช่นกัน ทำให้รายได้จากงานเหล่านี้ที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีต้องเลื่อนไปเป็นปีหน้า
นอกจากนี้การชะลอของโครงการขนาดใหญ่ ทำให้สินค้าต้องสั่งทำเป็นพิเศษ (CUSTOM — MADE) ขายได้น้อยลง ขณะที่สินค้าที่ขายได้ก็จะเป็นสินค้าในกลุ่มที่มีการแข่งขันรุนแรง จึงมีผลให้กำไรจากการขายลดลงไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับแผนการขยายธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกเพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายก็ยังเดินหน้าไม่เต็มที่ เนื่องจากสินค้าในกลุ่มนี้มีความหลากหลายน้อยเกินไป ที่สำคัญการเตรียมความพร้อมทางด้านบุคลากรและการสร้างกลไกในการขายส่งยังไม่ลงตัวเต็มที่ ดังนั้น จึงยังไม่เห็นรายได้ที่จะเข้ามาเป็นกอบเป็นกำ
ขณะที่การขยายตลาดส่งออกที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากโรงงานที่ปรับปรุงใหม่ ยังไม่บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้ เพราะการผลิตสินค้าจากเครื่องจักรใหม่ยังไม่สามารถทำได้เต็มที่ ประกอบกับการขายสินค้า OEM ให้กับลูกค้าต่างประเทศ ที่คาดว่าจะสรุปได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี ก็ยังรอรายละเอียดจากลูกค้า ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้เห็นภาพชัดเจนในช่วงสิ้นไตรมาส 3/50 ทำให้บริษัทต้องปรับประมาณการใหม่
นายปกรณ์ คาดว่า ผลประกอบการของบริษัทจะพลิกฟื้นและกลับมาโดดเด่นได้ในปี 51 โดยงานที่ชะลอออกไปจะไปเห็นผลการรับรู้รายได้ในปีหน้าและ เมื่อรวมกับแผนงานเดิมที่วางไว้สำหรับการขยายธุรกิจในปีหน้า
"ช่วงที่ผลประกอบการจะเติบโตดีเราก็ออกมาบอก ดังนั้นเมื่อผลประกอบการจะทำได้แค่ทรงตัวก็ต้องบอกด้วยเหมือนกัน เพื่อยืนยันถึงความโปร่งใสที่เรามีต่อนักลงทุน เพราะเชื่อว่านักลงส่วนใหญ่เข้าใจ"นายปกรณ์ กล่าว
นายปกรณ์ คาดว่า ใน 2-3 ปีข้างหน้า รายได้จากโครงการจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 50% จากธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกและส่งออกที่จะเติบโตอย่างโดดเด่นและขยายสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยคาดธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกจะเติบโตเพิ่มสัดส่วนรายได้มาเป็น 40% ของรายได้ ส่วนการส่งออกจะอยู่ที่ 10% ของรายได้รวม ซึ่งเชื่อว่าสัดส่วนรายได้นี้จะลงตัว เพราะถือว่ากระจายความเสี่ยงได้มากกว่าเดิม
ปัจจุบัน รายได้ของ L&E มาจากตลาดโครงการ 65% ที่เหลือเป็นรายได้จากตลาดค้าปลีก-ส่ง โดยตลาดส่งออกมีสัดส่วนเพียง 2%
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--