นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการของบริษัทฯในช่วงครึ่งหลังปีนี้ (H2/64) มีโอกาสเติบโตจากครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเป็นรายได้จากธุรกิจหลักที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทิศทางของโรงไฟฟ้าพลังงานลมโดดเด่น เพราะเป็นช่วงฤดูกาลของลม และกระแสลมพัดค่อนข้างแรงตามปริมาณฝนที่มีเข้ามาค่อนข้างมากในปีนี้
สำหรับการรับงานใหม่ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ยังมีแนวโน้มที่บริษัทฯ จะได้รับงานใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทฯ ยังมีงานที่จะทยอยรอรับรู้รายได้จากงานด้านรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ที่มีปริมาณงานอยู่ในมือ (Backlog) ประมาณ 9,600 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า โดยจะช่วยเพิ่มความมั่นคงของผลการดำเนินงานบริษัทฯ ในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ โดยเป็นการเข้าไปประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีมูลค่างานที่จะเข้าไปประมูลรวมกว่า 20,000 ล้านบาทในปีนี้ คาดว่ามีโอกาสได้งานรับงานประมาณ 15-20% ของมูลค่างานทั้งหมด ซึ่งหากได้รับงานตามแผน ก็จะช่วยสนับสนุนรายได้ปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 20%
นายสมบูรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการปลูกพืชเศรษฐกิจประเภทกัญชงและการลงทุนทำโรงสกัด CBD บริสุทธิ์ 99% นั้น ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการดำเนินการให้เป็นตามแผนและขั้นตอนที่ได้วางไว้ทุกประการ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มปลูกได้ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการรอได้รับใบอนุญาตการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ และใบอนุญาตในการเพาะปลูกจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่า บริษัทจะสามารถสกัด CBD และมีผลผลิตในไตรมาส 1/65 ที่ 100 กิโลกรัมต่อวัน และกลางปี 65 ที่ 400 กิโลกรัมต่อวัน และ ไตรมาส 3/65 ที่ 600 กิโลกรัมต่อวัน ทำให้คาดว่าภายในสิ้นปี 65 จะครบ 1,100 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้บริษัทสามารถสร้างรายได้ให้กับ GUNKULได้เต็มปีนับตั้งแต่ 1 ม.ค.66 เป็นต้นไป
โดยบริษัทใช้งบลงทุนในธุรกิจกัญชงประมาณ 1,900 ล้านบาท และเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ระหว่างการดำเนินงานในระยะถัดไปประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งรายได้จากธุรกิจดังกล่าวขึ้นกับราคาขาย ซึ่งบริษัทประเมินไว้ 150,000 บาทต่อกิโล และ 300,000 บาทต่อกิโล โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่า 1,500-3,000 ล้านบาท
ด้านงบลงทุนรวมภายใน 3 ปี (64-66) อยู่ที่ 20,000 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยปีละ 7,000-8,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นใช้ลงทุนในธุรกิจพลังงาน 400-500 เมกะวัตต์ (MW) ประมาณ 15,000 ล้านบาท , ธุรกิจกัญชง เฟสแรก ประมาณ 2,000 ล้านบาท และ ธุรกิจ Built 2 Suit ประมาณ 3,000 ล้านบาท