นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดพักฐานหลังจากปรับตัวขึ้นไป 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง โดยอาจชะลอการลงทุนเพื่อรอถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสันโฮล และราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงเนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าจากความกังวลการแพร่ระบาดโควิดในต่างประเทศ
ส่วนบ้านเราก็ให้ติดตามการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดใหญ่ในวันนี้ คาดหวังผ่อนคลายล็อกดาวน์ เฟสแรกน่าจะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเปิดเมือง (Reopening) ได้บ้างแต่คงไม่มาก เพราะส่วนหนึ่งได้รับรู้ไปแล้ว แต่ก็ยังมีความคาดหวังคลายล็อกในเฟสต่อ ๆ ไป
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบเล็กน้อย โดยให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐทั้งดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ก.ค.และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค.ในวันนี้
พร้อมให้แนวรับ 1,595-1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,605-1,610 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,213.12 จุด ลดลง 192.38 จุด (-0.54%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,470.00 จุด ลดลง 26.19 จุด (-0.58% ), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,945.81 จุด ลดลง 96.05 จุด (-0.64%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 7.24 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 161.05 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 78.14 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 ส.ค.)1,601.91 จุด เพิ่มขึ้น 1.42 จุด (+0.09%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 208.42 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ส.ค.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 ส.ค.) ปิด 67.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 94 เซนต์ หรือ 1.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 ส.ค.) อยู่ที่ 2.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.81/82 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ ตลาดจับตาถ้อยแถลงประธานเฟด-ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ
- ศบค.ชุดเล็กชง "คลายล็อกดาวน์" ให้ 29 จังหวัดสีแดงเข้มเปิดนั่งทานอาหารในร้านขยับเวลาเคอร์ฟิว 1 ชม. จาก 3 ทุ่ม เป็น 4 ทุ่มถึงตี 4 สธ.วางมาตรการเข้มป้องกันติดเชื้อครอบจักรวาล "โควิดฟรี" คนให้-ใช้บริการฉีดครบ 2 เข็ม ผลตรวจ ATK เป็นลบ หวังกดตัวเลขติดเชื้อไม่ให้พุ่งอีก จับตา ศบค.อนุมัติสอดรับแผนใหม่อยู่ร่วมโควิด สถานการณ์ในไทยน่าจะผ่านจุดพีคของการแพร่ระบาด
- นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. มีมติเห็นชอบปรับเลื่อนกรอบระยะเวลาในการพิจารณาข้อเสนอโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) พ.ศ.2564 ใหม่ส่งผลให้ต้องเลื่อนประกาศผลการพิจารณาผู้ที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการเป็นวันที่ 23 ก.ย.64 จากเดิมในวันที่ 2 ก.ย.64 ล่าช้าไป 21 วัน เนื่องจากต้องการขยายเวลา และเปิดให้ผู้ที่ไม่อุทธรณ์ผลการพิจารณาทางเทคนิค 33 ราย ได้รับการพิจารณาภายใต้หลักการและแนววินิจฉัยเดียวกับการพิจารณาอุทธรณ์ของ กกพ.
- ร้านอาหารพร้อมเปิด 1 ก.ย. ตั้งการ์ดสูงสุดป้องกันโควิด ย้ำร่วมมือมาตรการรัฐเต็มที่ หวังมีรายได้จ่ายพนักงาน พอใจให้นั่ง 50-75% หอการค้าชงเปิดเมืองปลอดภัย เน้นกิจการเสี่ยงน้อย ใช้ "ดิจิทัล เฮลธ์ พาส" คุมระบาด "เอไอเอส-ดีแทค" ปรับบริการลูกค้าพื้นที่ล็อกดาวน์
- วิปสภาฯเคาะเปิดเวทีซักฟอก 4 วัน ไฟเขียวฝ่ายค้านพ่นไฟใส่รัฐบาล 40 ชั่วโมง "ประเสริฐ" โวจะฉายภาพรัฐบาลโอหังคลั่งอำนาจบริหารประเทศโดยประมาท พท.ตีปี๊บโหมแคมเปญไล่ "ประยุทธ์" ปลุกประชาชนลงชื่อไม่ไว้วางใจนอกสภา ชวนใส่ชุดดำ-ผูกริบบิ้นดำที่รถ-เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ แสดงพลัง ลูกหาบรัฐบาลชักแถวเย้ยยุคตกต่ำเล่นนอกกติกา พรรคเล็กดิ้นสู้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความล้มแก้ รธน."โกวิทย์"เฉ่งพรรคใหญ่สมคบคิดฮั้วเพื่อตัวเอง
*หุ้นเด่นวันนี้
- ADVANC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 210 บาท คาดหวัง Synergy ทางธุรกิจหลัง GULF เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่ม AIS จากการพัฒนาธุรกิจร่วมกันระหว่าง GULF และ ADVANC นอกจากนี้ยังคาดหวังอัตราการจ่ายปันผลที่สูงขึ้นตามนโยบายของ GULF ที่ต้องการให้กลุ่ม AIS จ่ายปันผลสูงขึ้น
- TTW (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 14.20 บาท แม้โควิดกระทบ Demand ส่งผลลบต่อปริมาณและรายได้การขายน้ำประปา แต่กำไรสุทธิยังเติบโตได้ โดยกำไรสุทธิงวด Q2/64 อยู่ที่ 856 ลบ. +23%YoY, +22%QoQ รับแรงหนุจาก Equity Income เพิ่มขึ้นราว 200 ลบ.รับอานิสงส์ CKP มีผลการดำเนินงานดี คาดแนวโน้ม Q3/64 ยังได้ปัจจัยหนุนกำไร CKP ต่อ ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี64 ฟื้นตัวจากปี 63 ที่ 0.74 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.81 บาท/หุ้น, และขยายตัวต่อในปี 65 ที่ 0.84 บาท/หุ้น ตามลำดับ อนึ่ง TTW จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.30 บาท/หุ้นขึ้น XD 8 ก.ย.64
- TU (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 25 บาท กำไร Q3/64 มีลุ้นโต Y-Y แม้ฐานสูงปีก่อนจากเงินบาทอ่อนค่า และการฟื้นตัวของกลุ่ม Frozen และ Pet Care หักล้าง Ambient ที่อ่อนลง ส่วนปลายปีมี Catalyst จากนำ TFM เข้าตลาดหุ้น ระยะยาวการเติบโตหนุนด้วยการเพิ่มสัดส่วน Innovation Product มี Margin สูง และยังมีแผน Spin-Off ธุรกิจ Pet Care ในปี 65 เพื่อปลดล็อคมูลค่าแฝง คาดกำไรปี 64-65 +19% Y-Y และ 6% Y-Y