นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/64 จะเติบโตได้ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3/64 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มปรับตัวลดลง และการกระจายวัคซีนทำได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันประเทศไทยยังจะเริ่มเข้าสู่เทศกาลการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวอีกด้วย คาดว่าประชาชนจะออกเดินทางมากขึ้น
นอกจากนี้กิจกรรมด้านเศรษฐกิจต่างๆ จะกลับมามากขึ้น หนุนให้ภาพรวมเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวด้วย จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้ปริมาณการเติมน้ำมันและการใช้น้ำมันสูงขึ้นด้วย
บริษัทคาดว่าปริมาณการขายน้ำมันของ PTG ในปีนี้จะเติบโตราว 5-8% และยอดขาย LPG คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 100% รวมถึงกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) จะเพิ่มขึ้น 8-12% จากปีก่อน
ส่วนเงินลงทุนปีนี้บริษัทได้ปรับลดลงเหลือ 3,000-3,500 ล้านบาท จากเดิมที่ 4,000-5,000 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดที่รุนแรงในช่วงก่อนหน้านี้ โดยแบ่งเป็นเงินลงทุนในธุรกิจหลัก 2,000-2,500 ล้านบาท,ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non Oil) 500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ๆ 500 ล้านบาท
สำหรับฐานะการเงินของบริษัท นายพิทักษ์ กล่าวว่า ไม่มีประเด็นน่ากังวล เพราะปัจจุบัน PTG มีกระแสเงินสดในมือเกือบ 4,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเพียงพอในการดำเนินธุรกิจช่วงสถานการณ์โควิด-19 และหากสถานการณ์ผ่อนคลายลงบริษัทก็ยังพร้อมจะขยายการลงทุนในช่วงไตรมาส 4/64 ได้ในทันที
นายพิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการนำบริษัทลูกเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยคาดว่าจะธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG ภายใต้บริษัท แอตลาส เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จะสามารถยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ในช่วงไตรมาส 4/64 และเข้าจดทะเบียนได้ในปี 65
ขณะที่ธุรกิจปาล์มคอมเพล็กซ์ คาดว่ายื่นไฟลิ่งในช่วงไตรมาส 2/65 หากไม่มีข้อติดขัดก็น่าจะเข้าจดทะเบียนได้ในปี 65 เช่นกัน