นายธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) เปิดเผยว่า บริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด (SHT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ DOD ดำเนินธุรกิจโรงสกัดสารสกัดจากกัญชง-กัญชา พืชกระท่อม และพืชสมุนไพรไทย ได้เซ็นสัญญาพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท MFUSED Group ซึ่งเป็นผู้นำด้านการสกัดและวิจัยพัฒนากัญชง-กัญชา รายใหญ่ที่สุดในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้ ทาง MFUSED Group ได้รับสิทธิในการเข้ามาซื้อหุ้น 18% ในบริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด
MFUSED Group มีความเชี่ยวชาญธุรกิจด้านการสกัดกัญชง-กัญชามานานกว่าทศวรรษ และยังเป็นผู้บุกเบิกในการจำหน่ายกัญชง-กัญชาที่ได้จากผลผลิตจากการปลูกกลางแจ้งที่ปราศจากการใช้ยาฆ่าแมลงในย่านแปซิฟิคตะวันตกเฉียงเหนือ รวมถึงยังเป็น ผู้ผลิตสารสกัดจากสารแคนนาบินอยด์ (CBD) ทางการแพทย์แบบถูกต้องตามกฎหมายรายแรกๆ ในสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ MFUSED Group มีโครงสร้างที่ความแข็งแกร่งทางธุรกิจ โดยมีกลุ่มธุรกิจในเครือ 2 บริษัทที่ช่วยสนับสนุนและเสริมการต่อยอดธุรกิจอุตสาหกรรมกัญชง-กัญชา ได้แก่ บริษัท Octave Labs ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐออริกอน เน้นธุรกิจการสกัดกัญชง โดยมีศักยภาพการสกัดเฉลี่ยอยู่ที่ 150,000 ปอนด์/เดือน และมีพื้นที่ปลูกกัญชง-กัญชากว่า 1,200 ไร่ รวมถึงยังมีห้องปฏิบัติการ (LAB) ตรวจวิเคราะห์วิจัยเพื่อสกัดสารสำคัญ อันดับต้นๆของโลก ขณะที่บริษัท Canvas Therapeutics มุ่งเน้นการบำบัดรักษาโรคสำหรับใช้ทางการแพทย์ภายใต้การใช้สารสกัดจากกัญชง-กัญชา รวมถึงพืชสมุนไพรต่างๆ
นายธนิน กล่าวเพิ่มเติมว่า บทบาทของ MFUSED Group ในฐานะ Strategic Partner ในครั้งนี้ จะเป็นผู้ออกแบบและควบคุมกระบวนการผลิตในโรงสกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงถ่ายทอด Know How การนำสารสกัดมาวิจัยและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่หลากหลายให้แก่ SHT โดยโรงงานสกัดของ SHT จะแล้วเสร็จและสามารถดำเนินการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ภายในปีนี้
สอดรับกับการที่บริษัทฯ เตรียมทยอยส่งมอบเมล็ดพันธุ์กัญชงให้กับกลุ่มพันธมิตร อาทิ กลุ่มเกษตรกร (Contract Farming) รายใหญ่ กลุ่มรัฐวิสาหกิจชุมชน อาทิ บริษัท ทีเอชซีจี กรุ๊ป จำกัด วิสาหกิจชุมชนทุ่งนางแลสมุนไพรเพื่อการแพทย์ รวมถึงวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกและแปรรูปบุกเขาค้อภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้กลุ่มพันธมิตรดังกล่าวปลูกและนำเมล็ดกัญชงมาจำหน่ายให้บริษัทฯเพื่อนำไปสกัดน้ำมัน (Hemp Seed Oil) และสกัดสารสำคัญเพื่อผลิต CBD เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าภายในไตรมาส 4/64 หรือ ต้นปี 65 ตามแผน ซึ่งบริษัทฯมองว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ประมาณ 25% ต่อปี และระยะเวลาคืนทุน ประมาณ 5 ปี
อีกทั้ง DOD ยังได้ตั้งเป้าหมายร่วม กับ MFUSED Group ใน 3 ปีข้างหน้า (65-67) เพื่อผลักดันให้บริษัทก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการส่งออกกัญชง-กัญชาในตลาดโลก ดังนั้นมั่นใจว่าดีลครั้งนี้จะช่วยให้เกิด Synergy ทางธุรกิจ 1+1 เท่ากับ 3 ภายใต้การนำจุดแข็งความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 บริษัทมาช่วยผลักดันในการสร้างมูลค่าการตลาดกัญชง-กัญชา ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ให้ครบทุกมิติทั้งในรูปแบบการเป็นผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และทำการตลาด เพื่อส่งออกสู่ตลาดโลก
ด้านนายยัง แทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท MFUSED Group กล่าวว่า การเข้ามาลงทุนร่วมกับบริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด (SHT) ครั้งนี้ ถือว่าเป็นบิ๊กดีลทางธุรกิจในการร่วมผนึกกำลังครั้งสำคัญของทั้ง 2 บริษัท เพื่อสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมกัญชง-กัญชาในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย
สาเหตุหลักของการร่วมลงทุนครั้งนี้ MFUSED Group เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของ DOD ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ SHT ที่มีความพร้อมในการเป็นผู้นำด้านการผลิตผลิตภัณฑ์จากสารสกัดกัญชง-กัญชาแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และ ปลายน้ำ ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งสอดคล้องกับนโนบายการเข้ามาร่วมลงทุนของ MFUSED Group อย่างมาก ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าว จึงทำให้บริษัทตัดสินใจเข้าร่วมลงทุน เพราะเรามองเห็นถึง Synergy ความสำเร็จแบบเดียวกัน และที่สำคัญการร่วมพันธมิตรครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ MFUSED Group ได้มีโอกาสเข้ามาขยายการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย อีกด้วย
" สาเหตุที่ร่วมลงทุนใน SHT เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในศักยภาพความแข็งแกร่งบริษัทแม่ อย่าง DOD ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในขณะเดียวกันมองว่า DOD มีความพร้อมในเรื่องของโรงสกัด และห้องปฏิบัติการ (LAB) และมีทีม R&D ที่คอยค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมและพัฒนาสารสกัดต่างๆ เพื่อรองรับการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบ ODM และที่สำคัญ DOD มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำในการผลิตผลิตภัณฑ์จากสารสกัดกัญชง-กัญชา พืชกระท่อม และพืชสมุนไพร แบบครบวงจร " นายยัง แทน กล่าว
นายโจนาธาน วัฒน์สุขสันติ กรรมการบริษัท MFUSED Group เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ตลาดสารสกัดจากกัญชง-กัญชา รวมถึงพืชสมุนไพร โดยเฉพาะทางการแพทย์ และเพื่อสุขภาพ มีแนวโน้มการเติบโตอย่างมากในตลาดโลก ขณะที่ตลาดในประเทศไทยมีการคาดการณ์ว่าในปี 67 จะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 20,000 ล้านบาท ส่วนตลาดในภูมิภาคคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 4 แสนล้านบาท ดังนั้น MFUSED Group และ DOD จึงมีเป้าหมายและมุมองในทิศทางเดียวกันว่า เราจะร่วมกันสร้างฐานการปลูก การสกัด การผลิต และการจำหน่าย ในประเทศไทยให้เป็น HUB ด้านการส่งออกไปยังตลาดโลก ภายใน 3 ปีข้างหน้า