นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ปี 64 เพิ่มขึ้นเป็น 2,100-2,200 ล้านบาท หรือเติบโต 80-85% จากเดิมที่คาดเติบโต 40-45% โดยได้นับปัจจัยหนุนจากค่าขนส่งทั้งทางเรือ และ ทางอากาศ ที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง และปริมาณการขนส่งสินค้าทั้งทางเรือและทางอากาศของลูกค้ามีจำนวนมากขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 3 เป็นช่วง High season ของการขนส่งสินค้าเพื่อที่จะสต๊อกของรองรับช่วงเทศกาลต่างๆ ที่มีขึ้นในช่วงปลายปี และประเทศไทยมีการส่งออกจำนวนมาก ในกลุ่มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักกลย์ ยานยนต์ ไปยังประเทศสหรัฐ จีน ญีปุ่น และประเทศต่างๆในอาเซียน บริษัทจึงได้รับปัจจัยกนุนในส่วนนี้เข้ามาด้วย
นอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากความร่วมมือกับ China post ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทย-จีน ตั้งแต่ไตรมาส 3/64
ขณะที่ล่าสุด LEO ได้ประกาศความร่วมมือกับ บริษัทไปรษณีย์ไทย ดิสทริบิวชั่น (THPD) โดยอยู่ระหว่างจัดโครงสร้างการทำธุรกิจร่วมกัน เช่น การขนส่งวัคซีน การขนส่งสินค้า E-commerce
"ความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง LEO กับ China post รวมไปถึงกับ บริษัทไปรษณีย์ไทย ดิสทริบิวชั่น จะเป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ผลักดันรายได้และกำไร All Time High อย่างต่อเนื่อง" นายเกตติวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้ ด้วยการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์และการบริหารความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรทางธุรกิจ ทำให้บริษัทฯ สามารถจัดหาพื้นที่และตู้คอนเทนเนอร์ในการส่งสินค้าได้ตามความต้องการของผู้ส่งออก จึงทำให้มีลูกค้าใหม่เพิ่มมากขึ้นกว่าปี 63 ถึง 40% และปริมาณตู้เพิ่มขึ้นถึง 52%
พร้อมกันนี้บริษัทยังเดินหน้าเข้าซื้อกิจการ (M&A) อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ 2-3 ดีล ในประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย คาดจะเห็นความชัดเจนในปี 65 ซึ่งจะช่วยหนุนให้ผลประกอบการมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง