ราคาหุ้น RBF ปรับขึ้น 1.47% หรือ 0.30 บาท มาที่ 20.70 บาท มุลค่าการซื้อขาย 38.61 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.21 น.โดยราคาเปิด 20.50 บาท ราคาสูงสุด 20.80 บาท ราคาต่ำสุด 20.40 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประกาศเกณฑ์การควบคุมปริมาณ CBD สูงสุดที่อนุญาตให้ใช้ในอาหารเสริม เครื่องดื่มอัดลม เครื่องดื่มไม่อัดลม และเครื่องดื่มประเภท cereal และธัญพืช ได้ไม่เกิน 75 mg/kg ตามคาด มองว่าปริมาณ CBD ที่ได้รับอนุญาตเพียงพอที่จะทำให้เกิดผลตามที่ต้องการ อย่างเช่น เพื่อผ่อนคลาย, บรรเทาความวิตกกังวล หรือความเจ็บปวด ฯลฯ
โดยยังคงมองว่า บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) อยู่ในระดับแนวหน้าของธุรกิจกัญชงกลางน้ำ เนื่องจากมีประสบการณ์ในฐานะผู้ผลิตสารปรุงแต่งมาก่อน โดยบริษัทคาดว่าอุปสงค์ของสารสกัด CBD ในปีหน้าจะอยู่ที่ 3,600-6,000 กก. ซี่งสูงกว่าประมาณการของเราในกรณีฐานที่ 2,400 กก. ขณะที่บริษัทคาดว่าราคาจะอยู่ที่ 200,000-300,000 บาท/กก.ตามที่เราคาดไว้
ทั้งนี้ แม้ว่า GPM ของธุรกิจกัญชงอาจจะต่ำกว่าประมาณการเดิมของเราเล็กน้อย แต่ด้วยปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้น เราจึงยังมองว่าประมาณการกำไรขั้นต้นของธุรกิจกัญชงในปี 65 ของเราที่ 520 ล้านบาทยังมี upside อีก สำหรับในด้านของการผลิต บริษัทมีพื้นที่ 44 ไร่สำหรับปลูกกัญชงแล้ว และยังมีอีก 200 ไร่ที่คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตให้ปลูกได้ในเร็ว ๆ นี้
และบริษัทยังมีโอกาสขยายธุรกิจในต่างประเทศได้ ทั้งธุรกิจที่ดำเนินอยู่และธุรกิจกัญชง เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ในเวียดนามเป็นผู้ผลิตเพื่อการส่งออก แม้ว่าประเทศในภูมิภาคจะประสบปัญหาจากการระบาดของโควิด-19 ในขณะเดียวกัน โรงงานในอินโดนีเซียในขณะนี้สามารถเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิตแล้ว ส่วนแนวโน้มในระยะยาว RBF ตั้งเป้าหมายในอีกสามปีข้างหน้าจะส่งออกผลิตภัณฑ์สารสกัดกัญชงออกไปยังตลาดที่มีศักยภาพ อย่างเช่น ญี่ปุ่น เมื่อต้นทุนวัตถุดิบ (ราคาต้นกัญชง) ลดลง
ยังคงประมาณการกำไรปกติปีนี้เอาไว้เท่าเดิมที่ 519 ล้านบาท ปี 65 ที่ 1.03 พันล้านบาท และปี 66 ที่ 1.21 พันล้านบาท และยังคงคำแนะนำซื้อ RBF และประเมินราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 26.50 บาท อิงจาก PER ที่ 52.0x (คิดเป็น PEG ที่ 1.0x) ยังคงมองบวกกับแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวจากการขยายกิจการในต่างประเทศ