(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ข่าวซิตี้กรุ๊ปขาดทุน ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 51.70 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 6, 2007 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐ และจากข่าวที่ว่าซิตี้กรุ๊ปประกาศแผนตั้งสำรองการขาดทุนในตลาดซับไพรม์เพิ่มขึ้นอีกกว่าหมื่นล้านดอลลาร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลดลง 51.70 จุด หรือ 0.38% แตะระดับ 13,543.40 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดรูดลง 7.48 จุด หรือ 0.50% แตะระดับ 1,502.17 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 15.20 จุด หรือ 0.54% แตะระดับ 2,795.18 จุด
ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.53 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.15 พันล้านหุ้น
นายปีเตอร์ คาร์ดิลโล นักวิเคราะห์จากเอวาลอน พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดซบเซาลงทันทีเมื่อซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า ตัวเลขขาดทุนของธนาคารอาจมีอยู่สูงถึง 6.5 พันล้านดอลลาร์ อันเนื่องมาจากมูลค่าสินทรัพย์ปรับตัวลดลง ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดสินเชื่อ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
"นักลงทุนเริ่มตื่นตระหนกนับตั้งแต่นายชาร์ลส์ พรินซ์ ซีอีโอของซิตี้กรุ๊ปประกาศลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบที่ไม่สามารถนำพาซิตี้กรุ๊ปให้รอดพ้นจากการขาดทุนในตลาดซับไพรม์ได้ ส่วนในช่วงก่อนหน้านี้นายสแตน โอนีล ซีอีโอของเมอร์ริล ลินช์ ก็ได้ประกาศลาออกด้วยเหตุผลที่คล้ายๆกัน" นายคาร์ดิลโลกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดได้รับผลกระทบจากการที่นายแรนดัลล์ ครอสเนอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด กล่าวในที่ประชุมสมาคมนายธนาคารที่กรุงวอชิงตัน ว่า "ตลาดซับไพรม์อาจจะถดถอยลงอีก ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงรุนแรงกว่าเดิม และคาดว่าสถานการณ์ในตลาดปล่อยกู้จำนองจะเข้าขั้นวิกฤติสุด ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้น ซึ่งก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง"
เฟดได้ทำผลสำรวจธนาคารพาณิชย์พบว่า ลูกค้าของธนาคารผู้ปล่อยกู้มีการผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น โดย 40% ของธนาคารที่ตอบรับการสำรวจระบุว่า ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมานั้น พวกเขาได้เพิ่มมาตรฐานการปล่อยกู้ให้เข้มงวดขึ้นสำหรับลูกค้าชั้นดี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 15% ในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ เมอร์ริล ลินช์ ร่วงลง 2.4% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเมอร์ริล ลินช์ อาจจะประกาศตัวเลขขาดทุนเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง 4.9% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ปซึ่งเป็นธนาคารอันดับ 2 ของสหรัฐลดลง 1.5% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดิ่งลง 4.9%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ