นายพงศ์ศิริ ศิริธร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เคอรี่ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเป็นหนึ่งในกลุ่ม Kerry Logistics Network Limited หรือ KLN ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ครอบคลุมทั่วโลก เตรียมความพร้อมรองรับการให้บริการในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีแผนที่จะขยายพื้นที่คลังสินค้า เพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่อีอีซี ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีคลังสินค้าในเขตพื้นที่อีอีซี ที่ให้บริการทั้งสิ้น 8 คลังสินค้า ในจังหวัดชลบุรี และระยอง กว่า 80,000 ตารางเมตร
"บริษัทยังมีศักยภาพที่จะขยายการให้บริการรับฝากคลังสินค้าอีกมาก ซึ่งเราเล็งเห็นถึงโอกาสการให้บริการลูกค้าและพร้อม วางแผนรับมือกับการเติบโตของภาคเอกชน เพราะมองว่าเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกรวมทั้งภาคการผลิตในเขตพื้นที่อีอีซี จะพลิกฟื้นกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดด รวมถึงการเพิ่มขึ้นของนักลงทุนต่างชาติ ที่ยังคงเชื่อมั่นในฐานการผลิตและบริการในเขตพื้นที่อีอีซี "
ทั้งนี้ ในเขตพื้นที่ EEC ถือเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เป็นโซนที่มีความพร้อมสามารถขยายตัวและเติบโตได้สูง สอดคล้องกับงานบริการด้านธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ที่สามารถขยายตัวเติบโตควบคู่กันไปได้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ดูแลให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมภาคการผลิต อุตสาหกรรมเทคโนโลยี อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ และเครื่องมือแพทย์ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค
เคอรี่ โลจิสติคส์ ถือเป็นหนึ่งผู้ให้บริการในพื้นที่อีอีซี ที่มีความพร้อมในการขยายธุรกิจ ด้วยจุดแข็งที่มีเครือข่ายทั่วโลก พร้อมให้บริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งการขนส่ง การบริหารคลังสินค้าหลากหลายรูปแบบทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น คลังสินค้าทั่วไป คลังสินค้าปลอดอากร คลังสินค้าอีคอมเมิร์ซ และคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทยังมีการให้บริการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added Services) เดินพิธีการศุลกากร การนำเข้า และส่งออกสินค้า ให้กับสินค้าทุกอุตสาหกรรมแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของลูกค้าแบบยั่งยืน"
"เคอรี่ โลจิสติคส์ เข้าใจในแนวการทำงานแบบ "Think Global but Act Local with Global Standard" ทำให้มั่นใจได้ว่าจะช่วยสนับสนุนและสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการในไทยในการเชื่อมโยงธุรกิจสู่ภูมิภาคเอเชียและระดับโลกได้" นายพงศ์ศิริ กล่าว