นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ จะเข้าสู่โหมดเทิร์นอะราวด์เต็มรูปแบบจากธุรกิจน้ำและธุรกิจผลิต-จำหน่ายยาสมุนไพร โดยเฉพาะธุรกิจน้ำที่จะมีรายได้ประจำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่งและถึงจุดคุ้มทุนภายในเวลาเพียง 7 ปี วางเป้ารายได้รวมกว่า 5,000 ล้านบาท จากการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัททั้งหมด
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/64 พลิกมีกำไรสุทธิ 15.17 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 7.72 ล้านบาท ส่วน 6 เดือนแรกของปี 64 พลิกมีกำไร 21.78 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 14.64 ล้านบาท
นายอมฤทธิ์ กล่าวว่า บริษัทพร้อมเข้าสู่ธุรกิจการให้บริการน้ำแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้กับชุมชนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ขายน้ำประปาให้กับโรงงานอุตสาหกรรม รวมไปถึงธุรกิจบำบัดน้ำ ผ่านบริษัทย่อย โดยปัจจุบันบริษัทได้รับสัมปทานโครงการวางระบบน้ำประปาเพื่อบริหารจัดการน้ำประปาบนเกาะเสม็ด ร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ระยะเวลา 25 ปี กำลังการผลิตได้ 10,000 คิว/วัน
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำ ใน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ผ่าน บริษัท ปลวกแดง วอเตอร์ จำกัด โดย MORE ถือหุ้นในสัดส่วน 100% เพื่อดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำ ให้บริการชาวบ้านกว่า 3,000 ครัวเรือนที่มีความต้องการใช้น้ำประปา ระยะเวลาสัมปทาน 25 ปี กำลังการผลิตได้ 10,000 คิว/วัน
"การที่เราตัดสินใจเข้ามารุกธุรกิจการเป็นผู้ให้บริการน้ำแบบครบวงจร เนื่องจากเรามองว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว หรือในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัทฯ อีกทั้งในปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อผลิตน้ำป้อนโรงงาน รวมไปถึงการขยายตลาดไปสู่การเป็นผู้ให้บริการบำบัดน้ำเสียในบ่อกุ้ง ให้กับเกษตร อีกทั้ง บริษัทฯยังได้รับสัมปทานจัดจำหน่ายแร่ไพโรรูไซต์ แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งแร่ไพโรรูไซต์ เป็นแร่ที่ได้จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารเคมีเจือปน สามารถใช้กรองน้ำ และบำบัดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง"
นอกเหนือจากธุรกิจน้ำ ในช่วงที่ผ่านมา MORE ยังได้ขยายไลน์เข้าสู่ธุรกิจด้านอาหาร ยาสมุนไพร และเครื่องสำอาง ผ่าน บริษัท มอร์ เมดดิคัล จำกัด ตั้งแต่ช่วงต้นปี 63 โดยได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข และ แพทยสมาคมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน จัดตั้งช่องทางการจัดจำหน่ายยาสมุนไพรภายใต้ชื่อ "การบูร" ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นยาแคปซูลฟ้าทะลายโจรสกัด สเปรย์กระชายขาว เนื่องจากสินค้ามีคุณภาพมาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย.
"สำหรับ มอร์ เมดดิคัล จัดเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก เนื่องจากตลาดธุรกิจยาและสมุนไพรมีขนาดใหญ่มูลค่านับหมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรที่มีคุณภาพมาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. ทำให้ทั้ง 3 โปรดักส์ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างมาก ที่ผ่ามมามีออร์เดอร์สั่งซื้อมาเป็นจำนวนมาก จนไม่สามารถผลิตได้ทันความต้องการที่มี อันเป็นผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยิ่งทำให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญกับการป้องกันและรักษาสุขภาพมากขึ้น"