นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สหไทย เทอร์มินอล (PORT) เปิดเผยว่า บริษัทรับรายได้ปี 64 จะเติบโตได้เพียง 5% จากเดิมคาดเติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,359.94 ล้านบาท โดยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่คาดว่ายังคงส่งผลไปถึงปี 65 ในขณะเดียวกัน ค่าขนส่งยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง และมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ความต้องการการขนส่งสินค้ายังคงมีอยู่จำนวนมาก แม้ว่าสถานการณ์การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ยังไม่หมดไป และค่าขนส่งยังอยู่ในระดับสูงก็ตาม
บริษัทจึงอยู่ระหว่างการทบทวนเป้าหมายการเติบโตของรายได้ระยะยาวที่เฉลี่ย 15% ต่อปี เนื่องด้วยภาพรวมสถานการณ์ต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยความรวดเร็ว และผลกระทบที่มีจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีอยู่ทั่วโลกยังกดดันการดำเนินกิจการของบริษัท
ด้านความคืบหน้าของโครงการ Bangkok River Terminal (BRT) อยู่ระหว่างการดำเนินงาน คาดว่าจะเปิดบริการได้ในช่วงปีหน้า เช่นเดียวกับ Bangkok Logistic Park (BLP) คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 65 โดยขณะนี้ BRT ได้รับการอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนการขอใบอนุญาตต่างๆ โดยเฉพาะจากกรมเจ้าท่า ใบอนุญาตก่อสร้าง การจัดตั้งเป็นทำเนียบท่าเรือ ขณะที่ BLP ได้ดำเนินการขอใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าทั้ง 2 โครงการยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างพิจารณาขยายบริการคลังสินค้าห้องเย็นเพิ่มเติม หลังจากปัจจุบันที่เปิดดำเนินการเฟสแรก พบว่าเริ่มเต็มพื้นที่แล้ว เนื่องจากลูกค้าให้การตอบรับค่อนข้างดี โดยลูกค้าบางส่วนที่นำเข้าสินค้ามีความต้องการใช้คลังห้องเย็นเพิ่มมากขึ้น
ในปีนี้บริษัทยังคงงบทุนทั้งสิ้น 211 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการลงทุนใน 3 ด้าน ประกอบด้วย การลงทุนในบริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอร์มินอล จำกัด (BRT) 93 ล้านบาท การซ่อมบำรุงต่างๆ 45 ล้านบาท และการลงทุนในโครงการของบริษัท 72 ล้านบาท