บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์(QH) ตั้งเป้าหมายปี 51 มียอดรับรู้รายได้ 2 หมื่นล้านบาท เติบโต 15-18% จากปีนี้ที่จะมียอดรับรู้รายได้ราว1.05 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ 11 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ รวมกว่า 5.6 พันล้านบาท
พร้อมเตรียมแผนออกหุ้นกู้อีก 2 พันล้านบาทในไตรมาส 2/51 ขณะที่แผนขยายขนาดกองทุนอสังหาริมทรัพย์ต้องชะลอเพื่อรอการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% แต่ยังเดินหน้าลงทุนซื้อที่ดินเพิ่มอีก 3 พันล้านบาทเพื่อใช้พัฒนาโครงการใหม่ในปี 52-53
นายรัตน์ พานิชพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ QH กล่าวว่า ในปีหน้าคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30% จากการที่บริษัทพัฒนาโครงการที่มีอัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าในปี 50 และจากการลดต้นทุน
"ที่ผ่านมาการที่ผู้ประกอบการหันไปทำคอนโดฯกันหมด ทำให้เรามียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 10% แต่การที่เราหันมาสร้างคอนโดฯ ก็เพื่อให้ in trend แต่โครงการของบริษัทยึดหลักห่างจากรถไฟฟ้าไม่เกิน 100 เมตรและเราก็ไม่ได้คาดหวังจากรายได้ที่มาจากคอนโดฯ เพราะรายได้หลักของเรายังมาจากบ้านเดี่ยวเป็นหลัก"นายรัตน์ กล่าว
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมทั้ง 3 แห่งที่จะเปิดตัวในปีหน้า ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียมย่านท่าพระ ที่จะเริ่มสร้างในปี 51 และมีรายได้เข้ามาในปี 52 ,คอนโดมิเนียมย่านตากสิน เริ่มสร้างปี 51 และสร้างรายได้ในปี 53 ซึ่งทั้งสองโครงการมีมูลค่าโครงการรวมกันประมาณ 2,621 ล้านบาท
ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมที่ซอยหลังสวน เป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการมาจากเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ รวมทั้งคนไทย ซึ่งจะมีมูลค่าโครงการประมาณ 3 พันล้านบาท
นายรัตน์ กล่าวว่า บริษัทยังมีโครงการซื้อที่ดินใหม่ด้วยวงเงินลงทุนราว 3 พันล้านบาท เพื่อนำมาใช้พัฒนาโครงการใหม่ในปี 52-53 พร้อมทั้งเตรียมออกหุ้นกู้ล็อตใหม่อีก 2 พันล้านบาท จากที่ออกไปแล้ว 3 พันล้านบาท คาดว่าจะเสนอขายไม่เกินไตรมาส 2/51 โดยเม็ดเงินจะนำไปใช้ในการซื้อที่ดิน และใช้ชำระหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนด
ด้านความคืบหน้าการขยายขนาดกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 3.0-3.5 พันล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาของธนาคารแห่งประเทศ(ธปท.)ในการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% หากไม่ยกเลิกก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายกองทุนฯ ต้องล่าช้าออกไป เบื้องต้นกองทุนอสังหาฯ
นายรัตน์ กล่าวว่า ตามแผนงานดังกล่าวจะขายสินทรัพย์ให้กับกองทุนเพิ่มเติม เป็นเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ 3 แห่ง ย่านสุขุมวิท 10, ศาลาแดง และตรงข้ามพันธ์ทิพย์พลาซ่า รวมทั้ง อาคารสำนักงาน 2 แห่ง คือ อาคารคิวเฮ้าส์ที่สาทร และอีกแห่งกำลังพิจารณาอยู่
อย่างไรก็ตาม หากการขยายกองทุนฯ ไม่สามารถดำเนินการได้ บริษัทก็ยังมีเม็ดเงินจากกำหนดใช้สิทธิวอร์แรนด์ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทอาจนำเม็ดเงินดังกล่าวไปใช้ลดหนี้ทั้งหมด
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--