นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เชื่อว่า เมื่อพ้นระยะเวลา 1 ปีที่ทางการประกาศใช้มาตรการสำรอง 30% เงินทุนนำเข้าระยะสั้น จะไม่ทำให้เงินทุนต่างประเทศที่ได้รับการยกเว้นมาตรการดังกล่าวไหลออกจากตลาดหุ้นไปลงทุนประเภทอื่นที่ไม่ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมาตรการนี้ เนื่องจากผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยในช่วงตั้งแต่ต้นปีถึงต.ค.ที่ผ่านมาสูงถึงประมาณ 30% ขณะที่หากพิจารณาเทียบปีต่อปีให้ผลตอบแทนประมาณ 23% ถือว่าอยู่ในระดับที่สูง และใกล้เคียงกับตลาดหุ้นในเพื่อนบ้าน จึงไม่มีเหตุผลที่นักลงทุนต่างชาติจะถอนเงินลงทุนจากไทยเพื่อไปลงทุนในตลาดหุ้นที่อื่นแทน
นางภัทรียา กล่าวว่า กระแสการไหลของเงินทุนในโลกถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่สุด เนื่องจากทุกๆการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นส่งผลต่อตลาดทุนทั่วโลกมาโดยตลอด เรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาที่ค่อนข้างผันผวนอย่างรุนแรงเพราะเงินทุนมีการไหลเข้าออกอย่างมีนัยะ
อย่างไรก็ตาม เงินทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยที่สูงกว่า 1.5 แสนล้านบาทในตลาดหุ้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติเนื่องจากสอดคล้องกับตลาดหุ้นต่างๆในภูมิภาคเอเชีย
"เราห่วงเรื่องการไหลเข้าออกของเงินทุน เนื่องจากส่งผลต่อความผันผวนของตลาดทุน ดังนั้นนักลงทุนจะต้องติดตามทิศทางเรื่องดังกล่าวประกอบการลงทุนด้วย แต่เชื่อว่าเงินที่ไหลเข้ามาในปีนี้กว่า 1.5 แสนล้านบาทยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติเพราะเป็นเหมือนกันในตลาดหุ้นหลายประเทศ" นางภัทรียา กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--