นายธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์ นักกลยุทธ์เศรษฐศาสตร์มหภาค บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ประเมินว่าการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณลดขนาดกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบจำกัดต่อตลาดหุ้นไทย
จากมติการประชุม ECB เมื่อคืนที่ผ่านมาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ -0.50% ขณะเดียวกันก็คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% และปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจขึ้น อย่างไรก็ดี ECB มีมุมองเชิงบวกต่อภาพเศรษฐกิจมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด โดย 1) ปรับประมาณการ GDP ปี 64 ขึ้นจากเติบโต 4.6% สู่ระดับเติบโต 5% และ 2) คาดเงินเฟ้อยูโรโซนปีนี้จะเร่งขึ้นชั่วคราวสู่ 2.2% และค่อยๆลดลงสู่ 1.5% ในปี 66 พร้อมส่งสัญญาณปรับลดวงเงินและนำไปสู่การยกเลิกโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ในช่วงถัดไป
แม้ว่าจะยังไม่มี Timeline ที่ชัดเจนในการปรับลดวงเงินการซื้อคืนพันธบัตร แต่จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นกลับมาได้เร็วกว่าคาด ทำให้ ECB เริ่มส่งสัญญาณสะท้อนโอกาสการยกเลิกโครงการในช่วงถัดไป นำโดย 1) ทยอยลดขนาดการซื้อในช่วงไตรมาส 4/64 จะซื้อน้อยลงกว่า 2 ไตรมาสที่ผ่านมา และ 2) คงโครงการไว้ จนถึง มี.ค.65 หรือจนกว่าจะมีความเห็นว่าสถานการณ์โควิด-19 จบลง
นายธีรเศรษฐ์ กล่าวว่า มติของ ECB มีผลกระทบจำกัด โดยในระยะสั้น Neutral รายละเอียดต่างๆใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะคงดอกเบี้ย และ เริ่มมีการส่งสัญญาณลดขนาด PEPP แต่ยังไม่มี Timeline ที่แน่นอน อย่างไรก็ดีถือเป็นการส่งสัญญาณที่เกิดขึ้นตอกย้ำมุมมอง Monetary Policy Normalization ที่น่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในปีนี้ นั่นคือการปรับลดขนาดการทำ QE ของ Fed และ การปรับลดขนาดโครงการ PEPP ของ ECB ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในตลาดการเงินทั่วโลก
ระยะกลาง-ยาว ตลาดหุ้นไทยอาจโดนผลกระทบเชิงลบแต่ไม่มากนัก ผลกระทบจากสภาพคล่องในระบบที่ลดลงน่าจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นสหรัฐ และยุโรปโดยตรง เนื่องจากเป็นตลาดที่ Outperform (ปรับตัวขึ้น +73.5% และ +70.5% ตามลำดับ ในช่วง 16 มี.ค. ? ปัจจุบัน) ได้ประโยชน์จากสภาพคล่องโดยตรง ในทางกลับกันสำหรับตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทย อาจโดนผลเชิงลบจำกัดเนื่องจากเป็นหนึ่งในตลาดที่แทบไม่ได้อานิสงค์บวกจากสภาพคล่องดังกล่าว (นักลงทุนต่างชาติ Net ขาย) และเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ดีขึ้น และความคาดหวังการเปิดประเทศ