บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด ประเมินดัชนีหุ้นไทยสำหรับสัปดาห์ถัดไป (13-17 ก.ย.) มีแนวรับที่ 1,620 และ 1,610 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,645 และ 1,655 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิดทั้งในและต่างประเทศ ประเด็นการเมืองภายในประเทศ ตลอดจนทิศทางเงินลงทุนจากต่างประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดค้าปลีก ผลผลิตอุตสาหกรรม มูลค่านำเข้าและส่งออกเดือนส.ค.
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนส.ค. ของญี่ปุ่น ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนส.ค. และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ของยูโรโซน ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร
โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (6-10 ก.ย.) หุ้นไทยปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,635.35 จุด 0.91% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 90,658.68 ล้านบาท ลดลง 14.97% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 4.25% มาปิดที่ 548.71 จุด โดยภาพรวมหุ้นไทยแกว่งตัวอิงขาลงตลอดสัปดาห์ ตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตอบรับปัจจัยบวกไปค่อนข้างมากในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี หุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ช่วงสั้น ๆ กลางสัปดาห์ตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ และฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ สอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาครับข่าวที่ระบุว่าประธานาธบดี โจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีน นอกจากนี้ ยังมีแรงซื้อหุ้นบางกลุ่มที่อาจได้รับอานิสงส์จากที่จะมีการเร่งปูพรมฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรทั้งหมดอย่างน้อย 50% ทุกจังหวัด