"จักร จามิกรณ์" เปิดใจกับ"อินโฟเควสท์"ถึงการเข้าถือหุ้น 14.8% หรือประมาณ 72.5 ล้านหุ้น ในบมจ.วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค (WIN) ว่า เป็นเพียงการเข้าลงทุนในธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ที่ตนเองมีความสนใจและมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องกันอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
เนื่องจากปัจจุบันบริษัท เบรฟฮาร์ท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งล่าสุดแปรสภาพเป็น บริษัท BHI Holding Company มีธุรกิจมากมายหลายอย่าง อาทิ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผลิตรายการโทรทัศน์ รวมถึงธุรกิจขนส่งและโลจิสติกที่ตนเองดูแลอยู่ ประกอบด้วย ขนส่งทางอากาศ ภายใต้"แอร์ อันดามัน" ซึ่งตนเองถือหุ้นอยู่ 99.88% และมีเครื่องบินอยู่ในการดูแล 2 ลำ แต่ปัจจุบันอยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการ ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานก็จะเปิดดำเนินงานตามปกติ, ขนส่งทางบก ที่เพิ่งจะเข้าซื้อหุ้นบริษัท ซีเอฟวาย คาร์โก้ โลจิสติค จำกัด
**ถูกมองการซื้อหุ้น WIN เป็นประเด็นทางการเมือง
"ผมเข้าถือหุ้น WIN เพียง 14.8% เท่านั้น หรือ 72.50 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินแค่ 73 ล้านบาท ผมก็งงว่าไปโยงใยกับการเมืองได้อย่างไร ธุรกิจ WIN อยู่ในหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และก็มีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับรถไฟ ซึ่งผมถือหุ้นใหญ่อยู่ในธุรกิจการบินและธุรกิจขนส่งภาคพื้นดินอยู่แล้ว ซึ่งหากไปดูประวัติครอบครัวของผมจะรู้ว่าผมถือหุ้นอยู่ในบริษัทต่างๆ มูลค่าทรัพย์สินรวมกันมากกว่าที่ผมซื้อหุ้น 14.8% เป็น 10 เท่า ผมเลยงงว่า มันผิดยังไง..ผมซื้อหุ้นในราคาตลาด ซื้อขายผ่านกระดาน และก็เป็นการลงทุนในธุรกิจที่สามารถมา Synergy กับธุรกิจที่เรามีอยู่แล้ว"
"ผมมีธุรกิจเยอะ และไม่เข้าใจว่าเป็นประเด็นการเมืองได้ยังไง ในเมื่อผมซื้อผ่านกระดาน ส่วนที่มีรายการบิ๊กล็อตโยนหุ้น ผมบอกผู้ขายต้องการขายเพื่อปลดภาระฝั่งเขา เราเองเป็นการดีลผ่านที่ปรึกษาทางการเงินและผ่านกระดาน ซึ่งเรามีการดีลแบบนี้ทุกเดือน ไม่ใช่เฉพาะหุ้น WIN ผมซื้อหุ้นอยู่ตลอดเวลา ถ้าไปเช็คประวัติดู จะเห็นว่าผมมีบริษัทอื่นๆนับ 10 แห่ง ทุนจดทะเบียนเกิน 400-500 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่ที่ซื้ออยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ หุ้น WIN เป็นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ตัวแรกที่ซื้อ"
*เลือกลงทุนใน WIN เพราะมั่นใจธุรกิจ-พื้นฐานดี
"ผมยังมีความมั่นใจในธุรกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นธุรกิจที่น่าลงทุน หุ้นบนกระดานใหญ่มีพื้นฐานที่ดี เพียงแต่ธุรกิจที่เราจะเลือกลงทุนมันสอดคล้องกับธุรกิจของเราหรือไม่"
ส่วนกรรมการอีก 2 ท่านที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาใหม่ เป็นนักการเงิน ผมเองก็เป็นนักการเงิน
"พื้นฐานพวกผมเป็นนักการเงิน เรารู้ว่า WIN มีปัญหาเรื่องโครงสร้างบางตัว เรามองว่าธุรกิจนี้ดีมาตลอด จนกระทั่งเกิดวิกฤตทางการเมือง เราก็ยินดีจะเข้ามาช่วย"
*มีโอกาสขยับฐานะจากกรรมการและผู้ถือหุ้นไปเป็นตำแหน่งที่ใหญ่กว่านี้ของ WIN
"ผมมีความถนัดในการให้นโยบาย ซึ่งตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนทุกอย่างดำเนินการผ่านบอร์ดใหญ่อยู่แล้ว และก็ยังมีกรรมการตรวจสอบดูแลอยู่ ผมเรียนว่า บริษัท WIN มีโครงสร้างที่ดีอยู่แล้ว แม้ตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร และ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่คุณภัทรลาภและคุณชินณิชาเคยนั่งจะว่างอยู่ ก็ต้องดูว่าผู้ถือหุ้นใหญ่หรือผู้ถือหุ้นรายย่อยเป็นคนเลือก ถ้าผู้ถือหุ้นใหญ่เลือก ท่านก็อาจจะเลือกทีมงานเราเค้ามาเพราะเห็นว่าเราเป็นมืออาชีพ หรือท่านอาจจะส่งคนของท่านเข้ามาดูแล แต่บางสถานการณ์อาจจะต้องการมืออาชีพ"
"เรามองว่าเราถือแค่ 14.8% เรายินดีเข้าไปทำ มีแผนธุรกิจ แต่ตอนนี้ยังบอกอะไรมากไม่ได้ เพราะยังไม่ได้คุยกันเลย และยังไม่ได้ถือหุ้นมากพออย่างที่ใจต้องการ"
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--