ราคาหุ้น AEONTS ปรับขึ้น 1.26% หรือ 2.50 บาท มาที่ 201.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 46.00 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.43 น. ราคาเปิด 198.00 บาท ราคาขึ้นไปสูงสุด 201.00 บาท ราคาต่ำสุด 198.00 บาท
บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ภาวะตลาดที่ไม่ดีไม่น่าจะกระทบกับงบมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS) มากนัก โดยมองว่าภาวะตลาดและสถานการณ์ในช่วงไตรมาส 2/64 ของ AEONTS (มิถุนายน-สิงหาคม) เช่น สถานการณ์โควิด-19 รุนแรงยิ่งกว่าเดิม , ยอมให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 พักชำระหนี้สามเดือน/ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง (จากกลางเดือนกรกฎาคม-กลางเดือนตุลาคม) แต่เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ AEONTS อาจจะไม่แย่นัก เนื่องจากผลการดำเนินงานในตลาด CLMV ดีขึ้น โดยเฉพาะในกัมพูชา และมีการขาย NPL ก้อนใหญ่ออกไปโดยได้ราคาดี ซึ่งจะช่วยชดเชยยอดกันสำรองที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจในประเทศ
ผลประกอบการคาดว่าจะดีขึ้นอีกในไตรมาส 2 งวดปี 64/65 (สิ้นสุดเดือนสิงหาคม) แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นตลอดไตรมาส เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q64/65 จะอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท (+4% QoQ, +24% YoY), โดยใช้สมมติฐานดังนี้ 1.) ลูกค้าประมาณ 5% ของฐานลูกค้าทั้งหมดยื่นขอพักชำระหนี้ชั่วคราว กระทบกับการเก็บรายได้ดอกเบี้ย 2.) สินเชื่อทรงตัว QoQ แต่ -1% YoY (เราใช้สมมติฐานว่าโมเมนตัมสินเชื่อในประเทศยังเป็นบวกในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม แต่พลิกเป็นลบในเดือนสิงหาคม)
3.) ผลการดำเนินงานในตลาด CLMV ดีขึ้น โดยเฉพาะในกัมพูชาซึ่งสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ในขณะที่กิจการในเมียนมายังคงขาดทุนอยู่ 4.) มีกำไรจากการขาย NPL เพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านบาท และ 5.) ตั้งสำรองเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง
ทั้งนี้ เมื่ออิงตามประมาณการไตรมาส 2 งวดปี 64/65 ของเรา กำไรสุทธิในงวดครึ่งปีแรกงวดปี 64/65 จะคิดเป็นประมาณ 52% ของประมาณการทั้งปีของเรา
นอกจากนี้ AEONTS ขาย NPL ออกไปประมาณ 3 พันล้านบาทใน Q2 งวดปี 64/65 โดยได้ราคาดีมาก ทำให้เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรจากการขาย NPL รอบนี้ประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งจะบันทึกเป็นรายได้พิเศษในไตรมาสนี้ และจะช่วยชดเชยยอดกันสำรองที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ
ประเมินมูลค่าหุ้น AEONTS โดยอิงจาก P/E ที่ 12.5x ซึ่งสะท้อน PEG ที่ 0.8.x จากกำไรเฉลี่ยสองปีข้างหน้า โดยกำหนด discount จากหุ้นอื่นในกลุ่ม 45% เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายที 230 บาท