นายฉัตรธัย พันธัย ผู้จัดการฝ่ายการเงินและบัญชี บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ(BAFS) คาดว่า ในปี 51 บริษัทจะมีปริมาณเติมน้ำมันอากาศยาน 4.8 พันล้านลิตร เพิ่มจากปี 50 ที่มี 4.6 พันล้านลิตร หรือเติบโต 6%
เนื่องจากบริษัทมีปริมาณเติมน้ำมันจากท่าอากาศยานดอนเมืองเข้ามาเต็มปีบัญชี โดยคาดว่าในปี 51 จะมีปริมาณการเติมน้ำมันที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จำนวน 243 ล้านลิตร เพิ่มจาก 177 ล้านลิตรในปี 50 นอกนั้น เป็นการเติบโตจากปริมาณเติมน้ำมันในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
"เราได้วางกลยุทธ์ 5 ปีข้างหน้า ว่าจะสนามบินจะมีวอลุ่มโตเฉลี่ย 5% และหากสนามบินสุวรรณภูมิมีการขยายเฟส 2 ก็จะทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มเติม" นายฉัตรธัย กล่าว
สำหรับรายได้รวมในปี 50 จะอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท หรือเติบโต 44% จาก 1.53 พันล้านบาทในปี 49 ซึ่งมาจากรายได้ BAFS จำนวน 1.6 พันล้านบาท ที่เหลือมาจากบริษัทย่อย
โดยคาดว่าในไตรมาส 4/50 ปริมาณการเติมน้ำมันจะเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/50 และไตรมาส 4/49 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ทำให้มีปริมาณเที่ยวบินเพิ่มขึ้น และปริมาณการเติมน้ำมันเพิ่มขึ้นตาม อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4/50 คาดว่ากำไรอาจจะไม่ได่เติบโตสอดคล้องกับรายได้ เพราะเป็นช่วงจ่ายโบนัสให้กับพนักงาน
นายฉัตรชัย กล่าวว่า จากการที่บริษัทได้ปรับโครงสร้างรายได้เปลี่ยนเป็นสกุลเงินบาทสัดส่วน 80% ที่เหลือ 20% เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐทั้งหมด ทำให้บริษัทลดความเสี่ยงจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
ปัจจุบัน ถังน้ำมันของ BAFS ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีจำนวน 3 ถังบรรจุได้ 15 ล้านลิตร/ถัง รวม 45 ล้านลิตร สามารถรองรับได้การขยายเฟส 2 ได้ โดยบริษัทไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ถึงแม้ขณะนี้บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.อยู่ระหว่างการตัดสินใจที่จะย้าย เที่ยวบินที่ใช้เวลา 6 ชม.มาใช้ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง
อย่างไรก็ตาม หากมีการย้ายจริง บริษัทไม่ได้รบผลกระทบเพราะ ถังน้ำมันในดอนเมืองสามารถรองรับได้เพียงพอ โดยมีอยู่ 3 ถังบรรจุถังละ 6 ลิตรรวม 18 ล้านลิตร
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--