นายนพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงินและบริหารองค์กร บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจยอดขาย LPG ปีนี้จะทำได้ 6.8-7 แสนตัน ตามเป้าหมายที่วางไว้ จาก 8 เดือนทำยอดขายได้แล้ว 4.5 แสนตัน และคาดว่าไตรมาส 4/64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนยอดขายฟื้นขึ้นด้วย ขณะเดียวกันบริษัทยังมองโอกาสขยายสู่ธุรกิจ Downstream เนื่องจากให้มาร์จิ้นดี โดยจะดำเนินการผ่านบริษัทลูก บริษัท ไทยแก๊ส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้จำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ซึ่งจะช่วยหนุนมาร์จิ้นเฉลี่ยเพิ่มขึ้น
"ภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้เชื่อว่า จะยังคงเติบโตในทิศทางบวกต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ตามความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นกลุ่มรายได้หลักที่มีสัดส่วนการขายอยู่ที่ 60% ของยอดขายรวมของบริษัทฯ ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนอีก 20 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้ จากปัจจุบันมีจุดกระจายสินค้ารวมทั้งสิ้นกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เพื่อขยายฐานกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น รวมถึงเน้นขยายช่องทางการขาย (Export) และขยายไปยังกลุ่มลูกค้าที่มี Margin สูง" นายนวพงศ์ กล่าว
ปัจจุบัน เวิล์ดแก๊สมีส่วนแบ่งตลาด (Market Share) ในตลาด LPG อยู่อันดับ 2 หรือคิดเป็น 18% ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน โดยมีจำนวนถังก๊าซที่อยู่ในตลาด ขนาด 4 กิโลกรัม จำนวน 2.1 ล้านถัง, ขนาด 8 กิโลกรัม จำนวน 2 หมื่นถัง, ขนาด 13.5 กิโลกรัม จำนวน 5.8 แสนถัง, ขนาด 15 กิโลกรัม จำนวน 3.4 ล้านถัง และขนาด 48 กิโลกรัม 3.6 แสนถัง
นอกจากนี้ ธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์ รูฟท็อป) ปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาและอยู่ระหว่างการก่อสร้างรวม 4 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าเซ็นสัญญากับลูกค้าเพิ่มอีก 10 เมกะวัตต์ในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาเต็มที่ในปี 65 ราว 4-5 เมกะวัตต์ ขณะที่ปี 65 ตั้งเป้าเซ็นสัญญากับลูกค้าเข้ามาเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 20 เมกะวัตต์
ล่าสุด บริษัทเตรียมเข้าลงทุนซื้อกิจการโรงงานซ่อมถัง ของบริษัท ไทย แก๊ส ไซลินเดอร์ จำกัด (TGC) มูลค่าลงทุน 79 ล้านบาท ขนาดกำลังการซ่อมราว 430,000 ใบต่อปี ซึ่งจะช่วยให้บริษัทประหยัดต้นทุนและควบคุมคุณภาพได้มากขึ้น เนื่องจากทุกปีบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงถังเฉลี่ยราว 60 ล้านบาทต่อปี โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถปิดดีละซื้อกิจการดังกล่าวแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/64