ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดร่วงลงในวันนี้ (27 พ.ย.) หลังจากที่ดาวโจนส์ปิดรูดลงคืนวานนี้ เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ซับไพรม์รอบใหม่ในสหรัฐ
ความโกลาหลในตลาดสินเชื่อเกิดขึ้นอีกคำรบหนึ่ง หลังจากที่ซิตี้กรุ๊ปประกาศลดจำนวนพนักงาน และเอชเอสบีซี ประกาศทุ่มเงิน 3.5 หมื่นล้านกู้สถานการณ์กองทุน 2 แห่งที่ประสบปัญหาจากตลาดสินเชื่อสหรัฐ
อย่างไรก็ดี มีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นของบริษัทออกแบบแผงวงจร และหุ้นอื่นๆอีกบางตัวในช่วงท้ายของการซื้อขาย ซึ่งช่วยให้ตลาดไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันขึ้นมาได้
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีเวทเต็ดลบ 152.57 จุด หรือ 1.79% ปิดที่ 8,375.76 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 8,207.97 - 8,454.36 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.15 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน
ไมเคิล เอิน นักวิเคราะห์กล่าวว่า "วิกฤตการณ์สินเชื่อกระตุ้นให้เกิดภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจมากขึ้น และพัวพันมาถึงเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกของไต้หวันด้วย ช่วงไตรมาส 3 อาจเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไต้หวันขึ้นสู่จุดสูงสุด แต่เราอาจได้เห็นเศรษฐกิจชะลอตัวลงในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้า"
นักลงทุนบางรายเข้าลงทุนในช่วงหุ้นราคาแพงเมื่อเดือนก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านมาร์จิ้น ส่วนหุ้นที่สูงขึ้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหุ้นที่ปรับฐานหนักมาก่อนหน้านี้ รวมทั้งหุ้นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ IC
หุ้นธนาคารจงหัว ปิดบวกที่ 18.95 ดอลลาร์ไต้หวัน จากมีรายงานการประเมินสินทรัพย์ใหม่ ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 2 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน แต่ธนาคารปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในเรื่องนี้
ขณะที่หุ้น ยูนิ เพรซิเดนท์ ร่วงลงปิดที่ 37.00 ดอลลาร์ไต้หวัน แม้ว่ามีรายงานว่าบริษัทในเครือที่จีนแผ่นดินใหญ่เตรียมระดมเงินทุน 4.13 พันล้านดอลลาร์ จากการขายหุ้น IPO 881.72 ล้านหุ้นในตลาดฮ่องกง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ฤดี ภวสิริพร/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--