น.ส.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด (SCB Abacus) บริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า บริษัท SCB Abacus เป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชันสินเชื่อออนไลน์รูปแบบใหม่ ภายใต้แบรนด์ "MoneyThunder" หรือ "เงินทันเด้อ" ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนที่ไม่ได้รับโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบจากธนาคาร และมอบประสบการณ์การขอสินเชื่อที่สะดวกสบายให้กับลูกค้า โดยปัจจุบันร้อยละ 60 ของลูกค้าที่แอปพลิเคชัน "เงินทันเด้อ" ปล่อยสินเชื่อออนไลน์ให้ เคยถูกปฏิเสธจากธนาคารมาก่อน แต่ด้วยการเลือกใช้ข้อมูลทางเลือกที่หลากหลาย ประกอบกับเทคนิคการพัฒนาโมเดลแบบ Machine Learning และการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ทำให้การขอสินเชื่อออนไลน์นั้นสามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ โดยบริษัทยังเล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายบริการและเทคโนโลยีที่มีอยู่ไปยังกลุ่มธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มธุรกิจการเงินการธนาคารอีกด้วย
ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน "เงินทันเด้อ" สามารถอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ใช้บริการได้ภายใน 5-20 นาที โดยนับจากการลงทะเบียนหลังเข้าสู่แอปพลิเคชัน โดยปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 5 ล้านครั้ง และมียอดสินเชื่อและรายได้ในปีนี้เติบโตสูงกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในปัจจุบันยอดสมัครขอสินเชื่อคิดเป็นค่าเฉลี่ยรายเดือนอยู่ที่เดือนละ 3 พันล้านบาทและคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีวงเงินเฉลี่ยต่อรายอยู่ที่ประมาณ 15,000-30,000 บาท ทางด้านการควบคุมหนี้เสีย (NPL) ยังคงรักษาให้อยู่ในระดับเลขตัวเดียวได้ แม้ว่าจะเผชิญกับช่วงวิกฤตโควิด-19 นี้
น.ส.สุทธาภา กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากการระดมเงินทุน Series A จาก Openspace Ventures, Vertex Ventures Southeast Asia และ CAI Partners มูลค่ากว่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 400 ล้านบาท ทำให้ SCB Abacus สามารถเดินหน้าเต็มกำลังกับภารกิจสร้างสินเชื่อทางเลือกที่ดีกว่า โดยเงินลงทุนในรอบนี้จะนำไปใช้ในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน อีกทั้งสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเติบโตในตลาดสินเชื่อออนไลน์ โดยมีเป้าหมายภายในปี 65 ยอดสินเชื่อและรายได้จะเติบโตสูงขึ้นกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับปีนี้ และบริษัทยังคาดว่าการระดมเงินทุนครั้งต่อไปใน Series B น่าจะเกิดขึ้นได้ภายในปลายปีหน้าเช่นกัน
"ทั้งนี้ SCB Abacus ถือว่าเป็นฟินเทครายแรกที่ผันตัวออกมาจากธุรกิจธนาคาร โดยที่ผ่านมาเราได้รับการสนับสนุนจากทั้งธนาคารไทยพาณิชย์ และ SCB 10X ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของข้อมูลและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ SCB Abacus พัฒนาขึ้นมาเอง เสริมทัพด้วยทีมงานคุณภาพและความเชี่ยวชาญจากกลุ่มนักลงทุนชั้นนำของโลก ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมบริการทางการเงิน และสร้างความสะดวกสบายให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ จากการระดมเงินทุนครั้งนี้ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า SCB Abacus จะสามารถขึ้นเป็นผู้นำของกลุ่มธุรกิจสินเชื่อทางเลือกที่มีเป้าหมายในการแก้ปัญหาสินเชื่อนอกระบบ" ดร.สุทธาภา กล่าวทิ้งท้าย
นางสาวณิชาภัทร อาร์ค ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยของ Openspace Ventures กล่าวว่า Openspace Ventures มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ SCB Abacus เข้าร่วมพอร์ตการลงทุนของเราที่มีการเติบโตอย่างมากในประเทศไทย ทางเราเชื่อมั่นว่า SCB Abacus มีศักยภาพในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญในตลาดประเทศไทย ทีมงานที่มีความสามารถ และเทคโนโลยีระดับโลก ที่พร้อมจะขึ้นเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาสินเชื่อนอกระบบในประเทศไทย และสามารถขยายผลเชิงบวกได้อย่างมีนัยยะสำคัญ พร้อมทั้งสร้างความเคลื่อนไหวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้
ด้านนายอารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SCB Abacus กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับนักลงทุนระดับโลกอย่าง Openspace Ventures, Vertex Ventures Southeast Asia และ CAI Partners เราเชื่อมั่นว่าการระดมทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับรากฐานการเติบโตของ SCB Abacus ได้ทั้งในระยะยาวและเป็นการเติบโตที่ยั่งยืนต่อไป