นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาปิดบริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุน ประกอบด้วย บริษัท Ensemble Equity ที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ และบริษัท โปรฟิน กรุ๊ป เพื่อมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในระหว่างดำเนินการมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีงานที่อยู่ระหว่างดำเนินงานและรับรู้รายได้ต่อเนื่อง จากโครงการภาครัฐและเอกชน มูลค่ารวมโครงการกว่า 436.11 ล้านบาท อาทิ โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 โครงการทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารสำนักงาน 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง บ้านพักพนักงานท่าอากาศยานภูเก็ต โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการ โซนซี โครงการกรมโยธาธิการ โครงการจากกลุ่มโลตัส โครงการเซ็นทรัลพลาซ่า ชลบุรี โครงการ The Custom House โครงการ Emsphere โครงการ Holiday Inn Express Samui Bophut & Holiday Inn Resort Samui Bophut และโรงพยาบาลกระดูกและข้อ ข้อดีมีสุข เป็นต้น
อีกทั้ง บริษัทมีงานที่ใหม่อยู่ในระหว่างรอเซ็นสัญญาโครงการ มูลค่ารวมกว่า 250 ล้านบาท จากโครงการอาคารอเนกประสงค์ โครงการจากภาครัฐ และกลุ่มค้าปลีก ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ทุบสถิติอยู่ที่ 687 ล้านบาท และจะรับรู้ในปีนี้ประมาณ 173 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทมีความพร้อมในการเตรียมเสนองานภาครัฐและเอกชนเพิ่ม ประกอบด้วยงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการลงทุนของภาคเอกชนจากลูกค้ารายใหญ่ ทั้งงานอาคารอเนกประสงค์ งานศูนย์บริการด้านสุขภาพ โดยบริษัทวางแผนพัฒนาศักยภาพพนักงานเพื่อเตรียมตัวเข้าเสนองานในโครงการต่างๆ ที่จะออกมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับโครงการพัฒนาที่ดินแหลมยามู จ.ภูเก็ต ดำเนินงานโดยบริษัท โปรเจค วัน ซึ่งเป็นบริษัทย่อย PPSปัจจุบันสามารถขายที่ดินเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้า พร้อมทั้งอยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้างวิลล่าให้แก่ลูกค้า โดยบริษัทสามารถรับรู้รายได้จากการคุมงาน และการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ด้วยพื้นที่ของโครงการเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการของนักลงทุนสูง จึงยังคงได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายทั้งต่างชาติและคนไทย โดยคาดว่าหากมีการเปิดประเทศจะสามารถสร้างโอกาสเพื่อดึงความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติได้มากยิ่งขึ้น