สรุปข่าวเด่นวงการ Cryptocurrency ทั่วโลกรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (13-17 ก.ย.64) เริ่มต้นด้วยประเด็นข่าวร้อนๆของราคาเหรียญยอดนิยมอย่าง Solana ปรับตัวร่วงแรง เหตุจากเครือข่ายเริ่มหยุดการสร้างบล็อก มีการทำธุรกรรมจำนวนมากที่ส่งมาจากบอท ทำให้เครือข่ายเริ่มแยกตัวออกเป็นเส้นทางต่างๆ เป็นที่มาของเครือข่ายปิดตัวลงในที่สุด
*"Solana สู่ขิต? นี่หรือ Ethereum Killer"
Solana คืออะไร ?? Solana ก็คือบล็อกเชนอีกตัวหนึ่งมีลักษณะเหมือน "Ethereum Chain" หรือ "Binance Smart Chain" ที่อ้างว่าสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 50,000 TPS ประมวลผลได้เร็วและรับธุรกรรมได้จำนวนมาก จนถึงกับมีคนขนานนามว่า "SOL" จะมาเป็น "Ethereum Killer" ความรวดเร็วสะท้อนได้จาก 1 วินาทีรองรับธุรกรรมได้ 50,000 รายการ เป็นจำนวนที่มากกว่า ETH และมากกว่า Visa ที่รองรับได้ 65,000 ตามสถิติปี 2016
แต่ภายหลังจาก Solana เปิดให้ใช้งาน Mainnet (Beta) มีผู้เข้าใช้เป็นจำนวนมากด้วยจำนวนธุรกรรมที่มากถึง 400,000 TPS ทำให้ระบบรวนจัดลำดับความสำคัญไม่ได้ ทำให้เกิดการ Fork ขึ้นมา
"Fork" หมายความว่า การที่บล็อกเชนมีการแตกกิ่งก้านสาขาในการประมวลธุรกรรมออกไป ทำให้เกิดการ Fork หน่วยความจำของ "Validator" หรือ "Node" บางรายต้องหยุดชะงัก และจากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ธุรกรรมต่าง ๆ ที่อยู่บน "Solana Chain" หยุดชะงักทันที
แนวทางแก้ไขปัญหานี้ทางกลุ่มของ "Validator" (ผู้ยืนยันธุรกรรม) ได้มีการนำเสนอให้ "Restart" บล็อกเชนใหม่ ซึ่งทาง Solana เองก็ได้ทำการออก "Validator Software" เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และส่งให้ทุก Node ทำการอัพเดตต่อไป
แม้ว่าก่อนหน้านี้มักพูดกันบ่อย ๆ ว่าข้อมูลที่ถูกส่งขึ้นไปบนบล็อกเชนจะแก้ไขได้ยากมาก หรือแทบจะแก้ไขไม่ได้เลย แต่ว่าสามารถ "Restart" ได้ และเหตุการณ์ล่มของ "Solana Chain" ครั้งนี้ก็ทำให้ราคา "SOL" ร่วงลงไปอยู่ที่ประมาณ 140 ดอลลาร์ก่อนมีแรงซื้อกลับปรับตัวดีดขึ้นอย่างรวดเร็ว
กรณีนี้อาจเป็นการสะท้อนได้ว่าการทำธุรกรรมต่าง ๆ บนบล็อกเชนความผิดพลาดส่วนใหญ่มักเกิดจาก "Human Error" แต่บางครั้งก็สามารถเกิดจาก "System Error" ได้เหมือนกัน อย่างกรณีนี้เป็นต้น
*ซื้อไอโฟนด้วยบิทคอยน์ได้แล้ว
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว iphone 13 รุ่นใหม่ แต่ที่ว้าวกว่านั้นก็คือจริง ๆ แล้วสามารถซื้อ IPhone รุ่นใหม่ด้วยบิทคอยน์ได้ด้วย
สมัยอดีตบิทคอยน์ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2010 มีชายคนหนึ่งนำบิทคอยน์จำนวน 10,000 BTC ไปซื้อพิซซ่า 2 ถาด ที่ร้าน Papa?s John ในรัฐฟลอริด้า ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เป็นที่มาของวัน Bitcoin Pizza Day นั่นเอง
แต่ล่าสุดสามารถใช้บิทคอยน์ซื้อ Iphone และสินค้าอุปโภค บริโภคอื่น ๆ ด้วยบิทคอยน์ได้เช่นกัน แต่ Apple ยังไม่สามารถซื้อกับร้าน Apple Store ได้โดยตรง แต่จะเป็นร้าน Retail ที่ขายออนไลน์เท่านั้น
*ผู้ว่าแบงก์ชาติยืนยันไม่สนับสนุนใช้คริปโทฯ ชำระเงิน
ปัจจุบันต้องยอมรับว่าโลกการเงินมันมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมนาออนไลน์ ในหัวข้อ "The Future of Financial System" โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการรับมือต่อโลกการเงินในอนาคต โดยธนาคารแห่งประเทศไทยมีแนวทางที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตด้วยกัน 3 มิติ
มิติที่ 1 More Open Data การนำฐานข้อมูลที่มีอยู่ไปใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่นการแบ่งปันข้อมูลระหว่างธนาคาร ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้ง่ายขึ้น กู้ยืมได้ง่ายขึ้น
มิติที่ 2 More Open Competition ทำให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งรวมไปถึง non-bank ด้วย การแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้ผู้ใช้บริการ ได้ประโยชน์มากขึ้นอีก
และมิติที่ 3 More Infrastructure การจัดทำโครงสร้างพื้นฐานรองรับผู้เล่นที่หลากหลาย ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ เพื่อนำไปใช้ต่อยอดนวัตกรรม และบริการทางการเงินที่หลากหลาย
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าแบงก์ชาติ ได้กล่าวว่า ปัจจุบัน "ธปท. ไม่สนับสนุนให้ใช้คริปโทอย่างบิทคอยน์ในการชำระเงิน เนื่องจากมีความผันผวนสูง และอาจถูกใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน รวมถึงความเสี่ยงด้าน Cyber Securities อีกด้วย แต่ว่า ธปท. จะสนับสนุนการใช้งานผ่านสกุลเงินของรัฐในรูปแบบดิจิทัล หรือว่า "CBDC"
https://youtu.be/rYJNe0gyRh4