ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าร่วงไปแล้วกว่า 10 จุด รับแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่วันหยุดสุดสัปดาห์ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศวันนี้กลับมาปรับตัวสูงขึ้นกว่า 1.4 หมื่นรายอีกครั้ง จากที่ลดลงไปในช่วงก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 10.33 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,621.13 จุด ลดลง 10.57 จุด (-0.65%)
เมื่อเวลา 10.52 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,623.16 จุด ลดลง 8.54 จด (-0.52%)
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมากกว่า 10 จุดจากปัจจัย FTSE Rebalance ลดน้ำหนักหุ้นไทยราว 44 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว แตะ 33.20 บาท ซึ่งมากที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือน จากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ(Bond yield) พุ่ง 1.33% หลังจากตัวเลขยอดค้าปลีก ส.ค.ของสหรัฐออกมาดี และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานก็ดีด้วย ทำให้กังวลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในสัปดาห์หน้าจะปรับลดวงเงิน QE ซึ่งประธานเฟดแต่ละสาขาก็เริ่มส่งสัญญาณ โดยคาดว่าในเดือน พ.ย.นี้จะเริ่มปรับลด QE และจากเงินบาทอ่อนค่า กดดันให้นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิออกมา
ขณะที่ราคาน้ำมันเมื่อคืนทรงตัว แต่ราคาล่วงหน้าปรับลงหลังพายุเฮอริเคนผ่านไปแล้ว โรงกลั่นและแท่นขุดเจาะน้ำมันกลับมาผลิตแล้วกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน แม้ว่าค่าการกลั่นจะทำนิวไฮในรอบปี
นอกจากนี้ สถานการณ์โควิดในประเทศวันนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงขึ้น เป็นระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ หลังคลายล็อกดาวน์มีการติดเชื้อมากขึ้น จึงเห็นแรงขายออกมา
ให้แนวรับที่ 1,615 จุด แนวต้านที่ 1,635 จุด