หุ้น UMS-W1 ปิดเทรดวันแรกที่ 17.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 487.22 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 22.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 22.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 17.30 บาท
ส่วนหุ้น UMS ปิดเทรดที่ 25.75 บาท ลดลง 3.75 บาท (-12.71%) มูลค่าซื้อขาย 240.46 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 28.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 29.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 25.25 บาท
บทวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ประเมินราคา UMS-W1 หากพิจารณาจากราคาปิดของ UMS ที่ 29.50 บาท ซึ่งนำมา
คำนวณราคาของวอแรนต์โดยใช้ Black-Scholes Dilution-Adjusted Model with Implied Volatility (BS) จะพบว่าราคาของวอแรนต์ควรอยู่ที่ประมาณ 22.25 บาท ผู้ลงทุนยังมีทางเลือกที่จะสามารถใช้สิทธิในวันที่ 28 ธันวาคม 2550 เพื่อรับเงินปันผลในครึ่งปีหลังที่คาดว่าจะจ่ายประมาณ 0.50 บาท
ด้าน บล.กรุงศรีอยุธยา แนะถือ UMS ปรับเปลี่ยนวิธีการประเมิน Fair Price จากเดิมที่ใช้วิธี DCF เป็นวิธี P/E Approach เพื่อให้สะท้อนผลการดำเนินงานที่เติบโตในอัตราที่สูงและแข็งแกร่ง โดยใช้ P/E ที่ 12 เท่า (เท่ากับกลุ่มพลังงาน)และคาดการณ์ EPS ปี 51 ที่ 2.67 บาท (รวม Dilution Effect จากการแปลง Warrant 1 ใน 3 ของจำนวน Warrant ทั้งหมด 70 ล้านหน่วย โดยเกลี่ยตามอายุ Warrant 3 ปี)
ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการขยายตัวของยอดขายและกำไรสุทธิที่คาดจะเติบในอัตราเฉลี่ย 23% และ 24% ต่อปี ตามลำดับ ในช่วงปี 51-52 อีกทั้งยังมี Upside Potential จากโครงการ Coal Gasification (เปลี่ยนเชื้อเพลิงจากถ่านหินเป็นก๊าซ เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนก๊าซ LPG ในอุตสาหกรรมกระเบื้อง,อุตสาหกรรมแก้ว) ที่คาดจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 51 ซึ่งยังไม่ได้รวมเข้าไปในประมาณการ
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--