นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้และเอเชียจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยปัจจัยที่จะเข้ามารบกวนตลาดมาจากความไม่แน่นอนหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ไม่ว่าจะเป็น แรงกดดันจากกฎระเบียบกำกับดูแลของธุรกิจในประเทศจีน ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางการแก้ปัญหาในภาคอสังหาฯของจีนว่าจะออกมาในรูปแบบไหน
เนื่องจากนโยบายจีนในช่วงหลังพยายามจะพูดถึงการลดความเหลื่อมล้ำและการกระจายความมั่งคั่ง เพราะฉะนั้นแปลว่า อาจจะไม่ได้เข้าไปช่วยอุ้มบริษัทอสังหาฯแบบ 100% อาจจะไปช่วยแค่เฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรายย่อย และทางด้านความเสียหายต่อสถาบันการเงินต่างๆ อาจจะให้สถาบันการเงินรับรู้ตามจริง และเข้าช่วยเหลือแค่บางส่วนเท่านั้น ดังนั้นต้องจับตาดูลักษณะความช่วยเหลือว่าจะออกมาในรูปแบบไหน แต่ก็คงส่งผลต่อตลาดในระยะสั้นทำให้มีแรงกระเพื่อมเล็กน้อย
และอีกปัจจัยสำคัญคือตัวเลขการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (เฟด) ที่คาดว่าน่าจะเห็นการส่งสัญญาณลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)อย่างแน่นอน เพียงแต่ตัวเลขที่ออกมาจะเป็นตัวกำหนดตลาดว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน เพราะถ้าหากแผนปรับลดวงเงิน QE มีลักษณะทยอยลดลงประมาณ 1-1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภาพก็จะเป็นบวก เพราะใช้เวลาอีกมากกว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจจะราว 8 เดือน ? 1 ปี
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนจากการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลสหรัฐฯ และการเข้าใกล้เส้นตายของเพดานหนี้สหรัฐฯ อีกด้วย ซึ่งทิศทาง Fund Flow ในฝั่งเอเชียส่วนใหญ่จะขึ้นกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินสหรัฐฯ จะเห็นว่าในระยะสั้นค่าเงินสหรัฐฯแข็งค่าขึ้น รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ(Bond Yield)ก็ขยับขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นตลาดเหมือนจะเพิ่มการระมัดระวังมากขึ้น จึงอยากให้นักลงทุนระมัดระวังความผันผวนระยะสั้น
ฉะนั้น Fund Flow เคลื่อนไหวในทิศทางดังกล่าวอาจจะกระทบในหุ้นขนาดใหญ่ แต่การเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ก็จะไม่ค่อยมีผล จะเห็นว่าช่วงที่ผ่านมาหุ้นขนาดกลาง-เล็กหลายตัวเคลื่อนไหวได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมปาล์ม / อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง เช่น พวกไม้อัด จะเริ่มเห็นหุ้นที่ขึ้นนำและหุ้นตัวอื่นที่เริ่มทยอยตามขึ้นมา นักลงทุนอาจจะลองไปเล็งว่าตัวไหนยังขึ้นน้อยกว่าและน่าจะมีโอกาสตามกลุ่มที่เป็นผู้นำขึ้นมาได้ เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมปาล์ม รอบนี้เห็น VPO ขึ้นมาหนัก ก็จะเริ่มเห็นตัวอื่นที่ยัง Laggard อยู่ เช่น UVAN หรือ UPOIC ทางด้านอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง อย่าง VNG ที่นำขึ้นมา ตัวที่ตามอยู่อย่าง SKN ก็อาจจะเป็นตัวที่น่าสนใจในเรื่องของการเก็งกำไร
พร้อมให้แนวรับที่ 1,615-1,620 จุด และแนวต้านที่ 1,630 จุด
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,584.88 จุด ลดลง 166.44 จุด (-0.48%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,432.99 จุด ลดลง 40.76 จุด (-0.91%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,043.97 จุด ลดลง 137.96 จุด (-0.91%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันที่ 20-21 ก.ย. เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องในวันผู้สูงอายุ และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,640.43 จุด ลดลง 280.33 จุด (-1.12%)
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ก.ย.) 1,625.65 จุด ลดลง 6.05 จุด (-0.37%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 945.47 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ก.ย.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ก.ย.) ปิด 71.97 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 64 เซนต์ หรือ 0.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ก.ย.) อยู่ที่ 5.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.35/37 แนวโน้มอ่อนค่า ตลาดจับตาสัญญาณการลด QE จากเฟดสัปดาห์นี้
- ท่องเที่ยว-ค้าปลีก รับสัญญาณบวกเปิดเมือง กางแผนฟื้นบรรยากาศไฮซีซั่น "ททท."เดินเครื่องบิ๊กแคมเปญกระตุ้น "ไทยเที่ยวไทย" เปิดจอง 2 ล้านสิทธิใหม่ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3" และ"ทัวร์เที่ยวไทย" 1 ล้านสิทธิ 8 ต.ค.นี้ คิกออฟเดินทาง 15 ต.ค. หวังเม็ดเงินสะพัด 2.75 หมื่นล้าน "ห้างร้านค้าปลีก" เตรียม "พันล้าน" ปลุกใช้จ่าย เซ็นทรัลพัฒนา ระดม 100 งานชิงกำลังซื้อ
- ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว กว่า 44 ล้านโดส เข็ม 1 ครอบคลุม 40% สธ.เร่งฉีดจังหวัดเป้าหมายเปิดท่องเที่ยวให้เปอร์เซ็นต์สูง พร้อมจัดสรรวัคซีนลงพื้นที่สอดคล้องความจำเป็น-จำนวนวัคซีนส่งมอบ ขณะที่ 5 จังหวัดเปิดเมือง เชียงใหม่ยอดฉีดวัคซีนต่ำสุด 29 %
- นายกฯ ถกวันนี้ จ่อเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะ 70% กู้เพิ่ม 2 ล้านล้าน ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล" จ่อชง ครม.เคาะแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้าย "กระตุ้นบริโภค-พยุงจ้างงาน" ดัน "โค-เพย์" อุ้ม "เอสเอ็มอี" รักษาการจ้าง ต่ออายุจ้างงานรัฐชั่วคราว 3.4 หมื่นคน ถึงสิ้นปี ลุ้นผู้ติดเชื้อต่ำกว่าหมื่นรายหนุนเศรษฐกิจ นายกฯ ถกวันนี้ขยายเพดานหนี้เป็น 70% เพิ่มกรอบการกู้ได้ 2 ล้านล้านบาท สบน.เตรียมกู้อีก 1 แสนล้าน เดือน ก.ย.นี้
- วงการอสังหาฯ ชี้วิกฤติเอเวอร์แกรนด์ ยักษ์อสังหาฯจีน สายป่านขาดจ่อล้ม ไม่ลามมาไทย ผู้ประกอบการยันภาคอสังหาฯยังแข็งแกร่ง ไม่ก่อหนี้เกินตัวแต่ให้จับนักลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ ที่เข้าไปลงทุนอาจเสี่ยง "สมภพ" ยันจีนไม่ปล่อยให้ล้ม เพราะเป็นเครื่องจักรกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ
- ดันเต็มสูบ "กรุงเทพฯแซนด์บอกซ์" คิกออฟ 15 ต.ค. ห้าง โรงแรม ธุรกิจ ร้านค้า ทั่วกรุง 5 หมื่นแห่งรออานิสงส์ เผยนักท่องเที่ยว-นักลงทุนต่างชาติ 70 ประเทศ กว่า 1 แสนคน รอเที่ยวกรุงเทพฯ ลุ้นสร้างรายได้โค้งสุดท้ายปลายปี 2-3 หมื่นล้าน ผู้ว่าฯอัศวินลั่นต้องฉีดวัคซีนเข็ม 2 เข้าเป้าส่งสัญาณเปิดเมือง 8 พ.ย. ชี้ผลตอบรับดีกว่าภูเก็ต กระทุ้งรัฐทำแผนฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวควบคู่การเปิดประเทศ ออกมาตรการกระตุ้น ศก.ต่อเนื่อง
- สินเชื่อบ้านครึ่งปีหลังยังแข่งดุ แบงก์ตะลุมบอนชิงเค้กตลาด "รีไฟแนนซ์บ้าน" แห่คลอดแคมเปญดัมพ์ดอกเบี้ยดึงลูกค้าเข้าพอร์ต "ออมสิน" นำทีมระเบิดศึก "กู้ปีนี้ผ่อนปีหน้า" ปลอดเงินต้นดอกเบี้ย 6-9 เดือน กรุงศรีฯถล่มดอกเบี้ยปีแรก 0.5% ซีไอเอ็มบี ไทย ยื่นข้อเสนอ 2 ปีแรกดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.84% ต่อปี
- สคร.กำชับบอร์ดรัฐวิสาหกิจติดตามเร่งรัดเบิกจ่ายงบฯลงทุน เผย 5 เมกะโปรเจ็กต์เบิกจ่ายล่าช้าไป 1.2 หมื่นล้านบาท ระบุโครงการเบิกจ่ายช้าสุด เป็นของ ทอท. ขณะที่เป็นของการ รถไฟฯถึง 3 โครงการ ส่วนอีกโครงการของการทางพิเศษฯ ยันภาพรวมยังมั่นใจเบิกจ่ายได้ตามเป้า พร้อมเตรียมมาตรการเข้มข้นบี้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายปีงบประมาณ 2565
- SPALI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" เป้า 26 บาท การคลาย Lockdown ช่วยกระตุ้น Demand และเอื้อต่อการเปิดโครการใหม่ ขณะที่แนวโน้มกำไร 3Q21 คาดเร่งตัวขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y จากการรับรู้คอนโดที่ต่อเนื่องจาก 2Q21 และมีสร้างเสร็จเพิ่มอีก 1 แห่ง ปัจจุบัน Backlog แข็งแกร่ง 3.6 หมื่นลบ. รับถึงปี 2024 ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดที่ PE ต่ำมากเพียง 6.7 เท่าและให้ Dividend Yield 6% ขณะที่ผู้บริหารยังคงซื้อหุ้นเพิ่มอย่างต่อเนื่องเป็นจิตวิทยาเชิงบวก
- ITEL (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 5.50 บาท Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2021-2022 ที่ 236 ลบ. และ 299 ลบ. โต +28%YoY, +27%YoY ตามลำดับ Backlog ที่ระดับ 3.17 พัน ลบ. คาดรายได้โต 20-30%YoY ตามเป้า กอง REIT Data Center IDC1 เนื้อหอมคาดเป็นที่ต้องการของนักลงทุน การให้บริการ Data Center และ Cloud เป็น Mega Trend ในสาย ICT Infrastructure ที่จะเติบโตสูง ผู้บริหารวางแผน 5 ปี รายได้โตเฉลี่ย 15.6% CAGR แตะระดับ 5 พัน ลบ. ในปี 2026 ท่ามกลางจุดเปลี่ยนเทคโนโลยี 5G, IOT และ Cloud ที่กำลังเพิ่มขึ้น
- GFPT (เมย์แบงก์กิมเอ็ง) เป้าเชิงกลยุทธ์ 14.60 บาท แนวโน้มกำไร 3Q64 ดีขึ้นต่อในช่วงไฮซีซั่นซึ่งปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นตามประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้น แม้การขยายกำลังการผลิตไก่ปรุงสุกจะล่าช้าไปเล็กน้อย แต่คาดว่ากำไรยังอยู่ในทิศทางของการฟื้นตัวใน 2H64 และจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2565