(เพิ่มเติม) SPALI คาดต้นทุนพุ่งทำมาร์จิ้นปี 50 ลด 1-2%, ยอดพรีเซลยังได้ตามเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 5, 2007 14:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) กล่าวว่า ในปีนี้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทอาจจะปรับตัวลดลงราว 1-2% มาอยู่ที่ประมาณ 40% เนื่องจากต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นประมาณ 10% ตั้งแต่ต้นปีไม่ว่าจะมาจากราคาน้ำมัน วัสดุก่อสร้าง ขณะที่ตลาดปรับราคาสินค้าได้ช้ากว่า  
แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายอดขาย(พรีเซล)ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 8.8 พันล้านบาท โดย 10 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมียอดพรีเซลแล้ว 7 พันล้านบาท และยอดขายในช่วงไตรมาส 4/50 จะปรับตัวดีขึ้นจากความต้องการของผู้บริโภคที่กลับมา ทำให้ยอดขายดีกว่าไตรมาสก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ คาดว่าไตรมาส 4/50 จะมียอดขาย 200 ล้านบาท/เดือนจากไตรมาส 3/50 มียอดขาย 150 ล้านบาท/เดือน
นายอธิป กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนที่เหลือปีนี้ SPALI จะเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 3 โครงการ และโครงการอาคารสูง 1 โครงการ รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาท
"4 โครงการจะเป็นตัวผลักดันให้ยอดขายเป็นตามเป้าหมายจากช่วงครึ่งปีแรกที่ชะลอ เท่ากับว่าในปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการทั้งหมด 8 โครงการ รวมมูลกค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการเปิดโครงการที่มากกว่าเป้าที่เราวางไว้ประมาณ 6-7 โครงการ เราเชื่อว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาฯในไตรมาส 4 จะกลับมาฟื้นตัวอย่างมากจากครึ่งปีแรกที่ชะลอตัว" นายอธิป กล่าว
นายอธิป กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการซิตี้โฮม สี่แยกท่าพระ ที่มีมูลค่าโครงการ 1.2 พันล้านบาท ขณะนี้มียอดขายประมาณ 30% ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเดิมของทางบริษัท โครงการดังกล่าวจะสร้างเสร็จปี 53
นอกเหนือจากโครงการดังกล่าว บริษัทยังอยู่ระหว่างตัดสินใจที่จะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมที่จังหวัดภูเก็ต หลังจากโครงการคอนโดมิเนียมที่หาดใหญ่ใกล้จะขายหมดแล้ว ส่วนระยะเวลาอาจจะเป็นปลายปีนี้หรือปีหน้ายังไม่ได้กำหนดแน่นอน
นายอธิป กล่าวว่า สัดส่วนรายได้ในปีนี้ ยังคงมาจากคอนโดมิเนียม 60% โครงการแนวราบ 40% แต่ในปีหน้าสัดส่วนจะปรับเป็น 50:50 และจะรักษาระดับดังกล่าวไว้ต่อเนื่อง โดยมองว่าความต้องการโครงการแนวราบจะกลับมา จากสถานการณ์ต่างๆ ที่คลี่คลาย ทำให้ผู้บริโภคที่เคยชะลอและลังเลที่จะซื้อโครงการกลับมาตัดสินซื้อมากขึ้น ขณะที่โครงการอาคารสูงยังคงมีความต้องการของตลาดอยู่
ในปีหน้า บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนซื้อที่ดินมากขึ้นจากปีนี้ แต่จะต้องรอเสนอขออนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทก่อน โดยในปีนี้บริษัทใช้เงินลงทุนซื้อที่ดินไปแล้วกว่า 2 พันล้านบาท จากที่ตั้งไว้ 2.5 พันล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ