นางสาวกัญธิมา แจ้งวันสุข กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามราชธานี (SO) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจรายได้ปี 64 จะเติบโตกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 2,043.24 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกของปีนี้มีรายได้แล้วที่ 1,025.87 ล้านบาท ขณะที่ทิศทางครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ก็คาดว่าผลการดำเนินงานก็จะดีกว่า เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกที่ผ่านมา
ทั้งนี้มีปัจจัยหนุนมาจากรายได้จากค่าทำงานล่วงเวลา (OT) ของพนักงานที่จะกลับมาในช่วงปลายปี หากมีการเปิดประเทศ และขยายช่วงเวลาเคอร์ฟิว รวมถึงหลังจากการปรับโครงสร้างองค์กรของบริษัทฯ จะทำให้มีการกระจายหน้าที่ที่ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงทำให้การทำงานมีความกระชับมากยิ่งขึ้น โดยมีการแยกในส่วนงานสายการตลาดออกมา เพื่อให้มีการเดินตามกลยุทธ์อย่างชัดเจน และเข้มแข็ง รวมไปถึงสายงาน Project เพื่อสนับสนุนงาน Project โดยเฉพาะ, สายงาน Project & Next เพื่อสนับสนุน SO ให้มีความทันสมัย และออกผลิตภัณฑ์เพิ่มบริการใหม่ๆ
ขณะเดียวกันก็เพิ่มสายงาน Develop&Support และสายงานการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และร่วมลงทุน (JV) เพื่อรองรับการทำดีลต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากบริษัทฯ มองการเติบโตในอนาคตจะมาจาก Inorganic growth มากขึ้น ผ่านการทำ M&A และ JV ในบริษัท outsourcing ต่างๆ ที่มีกำไร, บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเทรนนิ่งบุคคลากร เป็นต้น
นางสาวกัญธิมา กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาการขยายการให้บริการรถยนต์ให้เช่าไปสู่การให้บริการรถยนต์ให้เช่าในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยมีการเจรจากับพาสเนอร์หลายเจ้าเพื่อนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาให้บริการ ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม VMS ให้กับกลุ่มลูกค้ารถเช่า เพื่อให้ลูกค้าใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งจะเป็นจุดแข็งให้กับธุรกิจบริการรถยนต์ให้เช่า (So Wheel)
นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจการบริหารจัดการงานบันทึกข้อมูล (So Next) บริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญากับกลุ่มลูกค้าใหม่เป็นกลุ่มงานบันทึกข้อมูลพร้อมแพลตฟอร์ม เกี่ยวกับงานด้านโรงพยาบาลและประกันภัย คาดจะเกิดขึ้นได้ในปี 65
สำหรับความคืบหน้าการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในกลุ่มงานของ IT Outsourcing ที่บริษัทฯ ได้มีการเจรจากับพันธมิตรในธุรกิจให้บริการด้าน Outsourcing มาตั้งแต่ครึ่งปีแรก ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการคัดเลือก Auditor และ FA เพื่อดำเนินการ Due Diligence คาดว่าจะสามารถปีดีลได้ใน Q1/65
ด้านกลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินการในเรื่องของการพัฒนาแพลตฟอร์ม DIGIDOCS ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการเอกสารออนไลน์ เพื่อการทำงานเอกสารที่ง่าย สะดวก และปลอดภัย หลังจากที่ติดตั้งให้ลูกค้าไปแล้วได้รับกระแสตอบรับที่ดี ปัจจุบันบริษัทได้ปรับปรุงแพลตฟอร์มดังกล่าว เพื่อตอบสนองลูกค้าได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้นอีก ซึ่งจะเรียกว่าแพลตฟอร์ม FLOW BUSINESS PROCESS MANAGEMENT ที่จะเริ่มให้บริการในไตรมาส 4/64 และคาดว่าจะมีลูกค้าที่เป็นกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่และกลุ่มโรงงานเพิ่มเข้ามา
ปัจจุบันบริษัทฯ มีธุรกิจแบ่งออกเป็น 1. ธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากร (Outsourcing Services) ได้แก่ การให้บริการด้านบุคลากร อาทิ ช่าง ช่างเทคนิค พนักงานขับรถ พนักงานออฟฟิศ ผู้ช่วยบัญชี ธุรการต่างๆ และพนักงานในตำแหน่งอื่นๆ ปัจจุบันมีบุคลากรที่อยู่ในการบริหารสัญญาของบริษัทกว่า 10,000 ราย 2. ธุรกิจการให้บริการรถเช่าหลากหลายรูปแบบ รวมถึงรถเช่าพร้อมพนักงานขับรถ 3.การให้บริการออกแบบตกแต่งสวน โดยกำหนดพื้นที่ 30 ไร่ขึ้นไป และ 4. งานบันทึกข้อมูลต่างๆ โดยบริษัทพัฒนาขึ้นมาเพื่อซัพพอร์ต 3 ธุรกิจข้างต้น
โดยบริษัทฯ มีฐานข้อมูลลูกค้าที่เป็นคู่สัญญาเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 15% โดยสิ้นสุด ณ ไตรมาสที่ 2/64 อยูที่ 1,800 ราย จากไตรมาสที่ 1/64 ที่ 800 ราย