นายสุทธิพร จันทวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) หรือ NNCL เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในข่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนหลักจากการปริมาณการใช้สาธารณูปโภค ทั้งในส่วนของน้ำปะปา และไฟฟ้า ภายในนิคมอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายไผในทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น และการกระจายการฉีดวัคซีนที่มากขึ้น ในขณะเดียวกันภาคการส่งออกของประเทศไทยเติบโตได้ถึง 12% โดยได้รับปัจจัยหนุนหลักจากอุตสาหกรรมอาหารและยา อุตสาหกรรมไฮเทค เป็นต้น เพราะเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวันของคนทั่วโลก ซึ่งภายในนิคมของ NNCL มีลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทคอยู่ประมาณ 50% และอุตสาหกรรมในกลุ่มนี้ก็มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดโลก เพราะในตลาดโดลกได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้ตอบรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป โดยบริษัทยังคงมุ่งเน้นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) จากการให้บริการสาธารณูปโภคต่างๆ ภายในนิคม เพื่อการเติบโตที่มั่นคงและกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีการเจรจาขายที่ดินในนิคมอย่างต่อเนื่อง แต่จะมีการบริหารจัดการรายได้ให้เข้ามาในสัดส่วนที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าลงทุนในธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำเพิ่มผ่าน 4 บริษัทย่อย เพื่อลงทุนในธุรกิจที่สนับสนุนกิจการในโครงการนิคมอุตสาหกรรมนวนคร นครราชสีมา ประกอบด้วย 1.บริษัท ๙ เฟรซ มาร์เก็ต จำกัด ประกอบกิจการตลาด, 2.บริษัท ๙ สมาร์ท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ประกอบกิจการที่อยู่อาศัย และอาคารพาณิชย์, 3.บริษัท ๙ โฮเทล แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ประกอบกิจการโรงแรม ภัตตาคาร และบริการอื่น ๆ และ 4.บริษัท ๙ สมาร์ท เรสซิเดนซ์ จำกัด ประกอบกิจการหอพัก ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจตลาด เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการเพิ่มเติม