นายนิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ และ บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (เอเอที) ซึ่งเป็นโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ และประกอบชิ้นส่วนยานยนต์ของฟอร์ด และมาสด้า ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) ได้ร่วมกันเปิดโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ขนาด 5 เมกะวัตต์ บนพื้นที่หลังคาโรงงานกว่า 45,000 ตารางเมตร อย่างเป็นทางการ
โครงการดังกล่าว บริษัท ดับบลิวเอชเอ โซลาร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ WHAUP เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง และดูแลระบบ Solar Rooftop โดยมีการพัฒนาโครงการตั้งแต่เริ่มต้น รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Studies) งานวิศวกรรมออกแบบ จัดซื้อจัดจ้าง และก่อสร้าง (Engineering, Procurement and Construction) งานขออนุญาตต่างๆ (Permitting) รวมถึงงานดูแลรักษาระบบ (O&M) ให้กับลูกค้าเป็นระยะเวลา 10 ปี ซึ่งถือเป็นการให้บริการรับเหมาก่อสร้างและจัดการระบบแบบเบ็ดเสร็จ ให้กับเอเอที โดยโครงการนี้เริ่มมีการดำเนินการผลิตไฟฟ้า และป้อนไฟฟ้าเข้าระบบการผลิตของโรงงานไปตั้งแต่ช่วงเดือนส.ค.ที่ผ่านมา
ความสำเร็จในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำศักยภาพความเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษของ WHAUP ในการให้บริการด้านสาธารณูปโภคและพลังงานอย่างครบวงจร ให้แก่ลูกค้าภาคอุตสาหกรรม นายนิพนธ์ กล่าวว่า จากความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเปิดดำเนินการในปัจจุบันแล้ว ทั้งสิ้น 46 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการ Solar Rooftop รวมทั้งสิ้น 63 เมกะวัตต์ จากเป้าปี 2564 ที่วางไว้ 90 เมกะวัตต์ ดังนั้น บริษัทฯ มั่นใจว่าด้วยศักยภาพในการขยายการให้บริการธุรกิจ Solar Rooftop จะส่งผลให้ในปี 2566 บริษัทฯ สามารถขยายการติดตั้งได้ครบ 300 เมกะวัตต์ ตามแผนที่วางไว้
ด้านนายเคล เคิร์นส (Mr. Kel Kearns) ประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (เอเอที) กล่าวว่า การเปิดตัวโครงการติดตั้ง แผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงานของเอเอที อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ถือเป็นการแสดงจุดยืนอย่างมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการผลิตรถยนต์คุณภาพไปพร้อมๆ กับการดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งขอบคุณ บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ที่ช่วยดูแลโครงการนี้ให้แล้วเสร็จ และมีการส่งมอบอย่างสมบูรณ์
การติดตั้ง แผงโซลาร์เซลส์บนหลังคาโรงงานของ เอเอที ในครั้งนี้ ช่วยให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายด้านการลดใช้พลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เอเอทีได้ยึดมั่นปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนการผลิตจากการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ตลอดอายุการใช้งาน 25 ปี หรือสามารถลดต้นทุนการผลิตจากการใช้พลังงานไฟฟ้า ได้เฉลี่ยปีละ 31.6 ล้านบาท ส่งผลให้ภายในระยะ เวลา 25 ปี เอเอทีจะสามารถลดต้นทุนได้สูงถึง 790 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Offset) ที่ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศได้ถึง 92,500 ตัน ตามนโยบายรักษ์โลก ลดโลกร้อน และลดการเกิดภาวะเรือนกระจก
ทั้งนี้ เอเอที มีความเชื่อมั่นในศักยภาพและความเชี่ยวชาญของ WHAUP เนื่องจาก WHAUP เป็นผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ดำเนินการด้านวิศวกรรมติดตั้ง และก่อสร้าง พร้อมทั้งยังดูแลในด้านการขอใบอนุญาต และยังมีการบำรุงรักษาหลังการติดตั้งให้อย่างครบวงจร กอปรกับทีมบุคลากรที่มีความเป็นมืออาชีพในการให้บริการลูกค้า และมีความเข้าใจในมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงของทางลูกค้า จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ เอเอทีเชื่อมั่นว่าการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีจะช่วยส่งเสริม สนับสนุน และยกระดับขีดความสามารถศักยภาพให้กับบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น