KBANKปล่อยสินเชื่อเอสโซ่ 1.5หมื่นลบ.ดันยอดปีนี้โตกว่า10%,ปี 51โต10-15%

          นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า ยอดสินเชื่อของธนาคารในปีน้น่าจะเติบโตได้เกินกว่า 10% หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 7 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะในไตรมาส 4/50 ธนาคารปล่อยสินเชื่อรายใหญ่กับทางบมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินกับทางบริษัทแม่ของเอสโซ่ 
          "คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เอสโซ่จะนำเงินที่กู้จากแบงก์ เพื่อทำให้ฐานะบริษัทดีขึ้น เตรียมเข้าสู่กระบวนการเพิ่มทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น Loan outstanding จะเกิดในช่วงธ.ค." นายประสาร กล่าว 
          นอกจากนี้ ธนาคารมีแผนขายหนี้ส่วนนี้ออกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อบริหารความเสี่ยง 
          สินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 3/50 ขยายตัวแล้ว 8% และโดยปกติในไตรมาส 4 สินเชื่อจะมีอัตราโตกว่าไตรมาสอื่นอยู่แล้ว เพราะจะมีการเบิกจ่ายมาก 
          นายประสาร กล่าวว่า สินเชื่อรวมในปีหน้าคาดว่าจะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของสินเชื่อรายใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งจะทำให้มีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นมาก น่าจะทำให้สินเชื่อรวมในปีหน้าเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10-15% จากที่ธนาคารเคยตั้งเป้าหมาย 8-13% ในปีนี้
          ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Gross NPL) ในปีนี้ คาดว่าจะลดลงเหลือ 4 % กว่า หรือ 3 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ธนาคารได้ขาย NPL ล็อตใหญ่ออกไป 1.18 หมื่นล้านบาทวานนี้ ส่วนปี 51 คาดว่าจะเหลือ NPL ต่ำกว่า 4% ซึ่งเป็นการลดลงที่เร็วกว่าเป้าหมายเดิม แต่ธนาคารยังคงวางแผนในเชิงระมัดระวังมากขึ้น เพราะยังคงมีความไม่แน่นอนหลายอย่าง 
          "แต่เดิมเราคาดว่า NPL จะอยู่ที่ 5% แต่คงต้องปรับเป้าใหม่ให้เหลือต่ำกว่า 4% และตั้งเป้าระยะยาวให้เหลือต่ำกว่า 2%" นายประสาร กล่าว 
          ส่วนการตั้งสำรองพิเศษในปีนี้คงไม่มีแล้ว คงเป็นการตั้งสำรองตามปกติ ไตรมาสละ 1 พันล้านบาทเท่านั้น 
          นายประสาร กล่าวถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยว่า ตั้งแต่สิ้นปีนี้จนถึงไตรมาส 2 ปีหน้า อัตราดอกเบี้ยนโยบายคงไม่มีการปรับลดลง เพราะเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันบวกกับฐานที่ต่ำปีนี้ ทำให้อัตราเงินเฟ้อปีหน้าสูง 
          "ดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์เองคงสอดคล้องกับดอกเบี้ยนโยบาย แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับคู่แข่งด้วย ในขณะนี้จะเห็นว่าดอกเเบี้ยมีการขยับดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ขึ้นกับกับสภาพคล่องของแต่ละธนาคารเองด้วย" นายประสาร กล่าว