ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 4.55 จุด ขายทำกำไรกลุ่มแบงก์-พลังงานหลังรู้ผลเฟด

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 902.73 จุด ลดลง 4.55 จุด(-0.50%) มูลค่าการซื้อขาย 26,004 ล้านบาท
          การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนกรอบสลับบวกและลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 924.70 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 902.08 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 118 หลักทรัพย์ ลดลง 218 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 119 หลักทรัพย์
          นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการเศรษฐกิจและกลยุทธ์ สถาบันวิจัย บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ช่วงเช้าตลาดขึ้นไปค่อนข้างแรงแต่ช่วงบ่ายเป็นลบ เป็นเพราะมีการเทขายทำกำไร (take profit) ในกลุ่มแบงก์ กลุ่มวัสดุก่อสร้างรวมทั้งกลุ่มพลังงานที่ขึ้นไปแล้วยืนไม่อยู่ เป็นลักษณะ Sell on Fact หลังจากที่รู้ผลว่าเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตามที่คาด 
          "นักลงทุนบางส่วนเริ่มกังวลเพราะหลังจากลดดอกเบี้ยสักระยะหนึ่งเศรษฐกิจของสหรัฐจะไม่ค่อยดี ต่อจากนี้ไปอาจจะไม่มีปัจจัยที่เข้ามาหนุนจิตวิทยาเชิงบวก"นายอดิศักดิ์ กล่าว 
          ปัจจัยที่เข้ามาหนุนเรื่องเดียว คือราคาน้ำมันที่ยังยืนอยู่ในระดับสูง 90 กว่าเหรียญฯ/บาร์เรล ทำให้กลุ่มพลังงานแม้ว่าจะบวกขึ้นไปมาก และถูกแรงขายทำกำไรลงมา ถือว่าเป็น Sell on Fact และ profit taking เกิดขึ้น หลังจากความคาดหวังเชิงบวกจากนี้ไปอาจจะหมดไป 
          และอีกปัจจัยหนึ่งคือดัชนีมีแนวต้านที่ค่อนข้างแข็งแกร่งที่ 920 จุด PE 15 เท่า เชื่อว่าจากนี้ไปตลาดอาจจะไม่มีความคาดหวังเชิงบวกอะไร แนวโน้มน่าจะอยู่ในลักษณะที่ปรับตัวลดลงเป็นขายทำกำไรมากกว่า 
          แนวโน้มพรุ่งนี้แนวต้าน 913 จุด แนวรับ 890 จุด 
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          PTT   มูลค่าการซื้อขาย 3,551.04 ล้านบาท ปิดที่ 416.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
          PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,730.10 ล้านบาท ปิดที่ 161.00 บาท ลดลง  1.00 บาท
          TOP   มูลค่าการซื้อขาย 1,127.57 ล้านบาท ปิดที่  95.50 บาท ลดลง  0.50 บาท
          BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,117.57 ล้านบาท ปิดที่ 444.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
          PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 1,100.49 ล้านบาท ปิดที่ 133.00 บาท ลดลง  4.00 บาท