นักวิเคราะห์ฯเล็งตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดีดตัวตามต่างประเทศขานรับผลประชุมเฟดส่งสัญญาณชัดเจนขึ้นต่อแผนปรับลด QE และการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังต้องจับตาทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐคืนนี้ รวมทั้งเงินบาทอ่อนค่าหลังจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินทั่วโลก ส่วนกรณี ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ เริ่มคลายกังวลไปได้บางส่วน ขณะที่ราคาน้ำมันยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเชื่อหนุนตลาดได้ แนะติดดามหุ้น SCB หลังประกาศปรับโครงสร้างใหญ่อาจมีผลต่อหุ้นอื่นในกลุ่มแบงก์ ให้แนวรับ 1,610 จุด และแนวต้าน 1,630 จุด
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที คาดว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าวันนี้น่าจะปรับตัวสูงขึ้นได้ตามตลาดต่างประเทศ หลังจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด พร้อมส่งสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นต่อการปรับลด QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามปัจจัยสำคัญอย่างตลาดหุ้นสหรัฐฯในคืนนี้ว่าจะตอบรับกับผลการประชุมเฟดอย่างไร หลังจากเฟดระบุว่าจะปรับลด QE ในไม่ช้า แต่ยังไม่ได้ระบุระยะเวลา และจะปรับขึ้นอีตราสดอกเบี้ยในปี 65 เร็วกว่าที่ตลาดฯ เคยคาดว่าจะเป็นปี 66 ซึ่งหากตลาดหุ้นสหรัฐฯยังเป็นบวกก็ทำให้ตลาดหุ้นไทยยืนบวกได้เช่นกัน
ส่วนอีกตัวแปรสำคัญที่ต้องจับตาค่าเงินบาท เพราะหลังจากเฟดระบว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลเชิงลบต่อตลาดหุ้น
ด้านกรณีของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ หลังจากทางการจีนได้เข้าช่วยเหลือในบางส่วน ทำให้นักลงทุนจะเริ่มลดความกังวลลง ส่วนราคาน้ำมันดิบก็ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี เชื่อว่าจะช่วยหนุนตลาดฯบ้านเราได้บ้าง
และวันนี้ยังต้องติดตามหุ้นเฉพาะตัว อย่าง SCB ที่ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่เมื่อวานนี้ อาจจะส่งผลต่อหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นบริการทางการเงินตัวอื่น ๆ ด้วย โดยวันนี้แนะนำหุ้น KKP และ หุ้นกลุ่มเปิดเมืองอย่าง CPN
พร้อมให้แนวรับที่ 1,610 จุด และแนวต้านที่ 1,630 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (22 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,258.32 จุด เพิ่มขึ้น 338.48 จุด
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ 3,651.27 จุด เพิ่มขึ้น 22.78 จุด (+0.63%), ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (23 ก.ย.) เนื่องในวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดวันนี้ที่ 24,614.14 จุด เพิ่มขึ้น 392.6 จุด (+1.62%)
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 ก.ย.) 1,619.59 จุด เพิ่มขึ้น 4.73 จุด (+0.74%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,032.19 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ก.ย.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 ก.ย.) ปิด 72.23 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 ก.ย.) อยู่ที่ 5.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.50 อ่อนค่าสุดรอบ 3 ปี ตอบรับผลประชุมเฟด
- ขยับฤกษ์เปิด 5 จังหวัด รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ "พิพัฒน์" เผยดีเดย์พร้อมกัน 1 พ.ย. เตรียมชง "ศบค." ชุดใหญ่ 27 ก.ย. รอฉีดวัคซีนเกิน 70% สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ "อนุทิน" เผยพ.ร.ก.คุมโรคติดต่อ เทียบเท่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งปิดกิจการได้ เตรียมนำเข้าที่ประชุม คกก.โรคติดต่อแห่งชาติวันนี้ ศูนย์ฉีดบางซื่อนัดเข็มบู้สเตอร์โดส 1.5 หมื่นราย 24 ก.ย.
- นายกฯ ดันแผนพัฒนาฯ ฉบับ 13 รับเมกะเทรนด์ สศช.ชี้มุ่ง 5 เป้าหมายหลัก 13 หมุดหมาย เจาะลึก 5 ปีต้องเห็นภาพเป็นรูปธรรม จ่อประกาศใช้ ต.ค.65 "วิรไท" แนะเร่งดำเนินการมาตรการเร่งด่วนก่อนเป็นจุดอันตราย "เอสซีบี อบาคัส" เตือนดิจิทัลอาจสร้างความเหลื่อมล้ำแนะหน่วยงานกำกับปรับตัวให้ทันเทคโนโลยี
- นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังหารือกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ 12 สมาคมการค้า เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดกรุงเทพฯว่า การจะเปิดกรุงเทพฯ ควรมีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ให้ถึง 70% ก่อน และต้องกำหนดมาตรการต่างๆ ที่ชัดเจน ระบบควบคุม ระบบติดตามตัว ฯลฯ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 เพราะต้องพิจารณาความพร้อมอย่างรอบคอบ ขณะนี้ในกรุงเทพฯ มีผู้ได้รับวัคซีนเข็ม 2 ประมาณ 44% หากเร่งรัดฉีดวัคซีนให้ได้ 70% จะใช้เวลาถึงวันที่ 22 ต.ค.นี้ และต้องรอให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันอีกระยะหนึ่ง จึงไม่ควรเร่งเปิดเมืองหากยังไม่พร้อม
- จุรินทร์ย้ำส่งออกคือความหวังเศรษฐกิจไทย เผยตัว เลข 7 เดือนโตกว่าเป้าแล้ว 4 เท่า ด้าน "เอดีบี" หั่นจีดีพีไทยปี 64 เหลือโต 0.8% สสว.เผยดัชนีความเชื่อมั่นเอสเอ็มอี ส.ค.ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
*หุ้นเด่นวันนี้
- SCB (เอเชียเวลท์) "ซื้อ" เป้า 134 บาท ปรับโครงสร้างเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นาในธุรกิจการเงิน - ธนาคารกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 15 พ.ย. 64 (XM 5 ต.ค.) จัดตั้ง SCBx ขึ้นเป็นบริษัท Holding สร้างความคล่องตัวในการดาเนินงาน และลดผลกระทบจากการถูก Disrupt ในธุรกิจธนาคาร เน้นการใช้เทคโนโลยี และ Data ในการวิเคราะห์ลูกค้า เพิ่มขีดความสามารถในการเข้าสู่ตลาด Blue Ocean ระยะสั้นผลประกอบการจะมาจากธุรกิจธนาคารเป็นหลัก แต่ผลจากการปรับโครงสร้างดังกล่าวจะเป็นบวกต่อ SCB ในระยะยาว
- CPN (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 58.00 บาท "เข้าธีมเปิดเมือง, วัคซีนเพิ่ม โควิดเริ่มคุมได้ ติดตาม Bangkok Sand Box หนุนต่างชาติเข้าไทย ส่วนในประเทศคาดจะเกิด Pend up demand ซุ่มพัฒนาทำเล Block A สยามแควร์ (โรงหนังสกาล่า) หลังได้สิทธิการเช่าที่ 30 ปี โดย CPN ให้ SF เป็นผู้พัฒนา Community Mall KTBST ประเมินกำไรปี 64-65 ที่ 8.2 พัน ลบ. และ 8.17 พัน ลบ. -14%YoY, -0.4%YoY ตามลำดับ
- CKP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" เป้าหมาย 6.60 บาท แนวโน้มกำไร Q3/64 ยังเร่งตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y แตะ 1-1.2 พันลบ.ทำจุดสูงสุดใหม่จาก High Season โดยปริมาณน้ำที่เข้า NN2 และ XPCL ที่สูงขึ้น คาดกำไรปี 64-65 +444% Y-Y และ +40% Y-Y และได้ประโยชน์จากแผน PDP2022 ที่เน้นขยายโรงไฟฟ้าพลังน้ำ