ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดลดลงในวันนี้ (15 พ.ย.) เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในเอเชีย อันเป็นผลมาจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปรับลดลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากตลาดยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติซับไพรม์
นักลงทุนต่างถอนตัวออกจากตลาดและมีท่าทีระมัดระวัง หลัง HSBC Holdings PLC ประกาศเมื่อวานนี้ว่าบริษัทมีหนี้สูญเพิ่มเติมอีก 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากวิกฤติซับไพรม์
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ลดลง 47.32 จุด หรือ 1.3% ปิดที่ระดับต่ำสุดของวันที่ 3,477.59 จุด โดยมีระดับสูงสุดของวันอยู่ที่ 3,525.27 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 1.95 พันล้านหุ้น มูลค่า 1.97 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
นักลงทุนจำนวนมากยังคงปลีกตัวออกจากตลาดและเฝ้าดูอยู่ห่างๆ เนื่องจากทิศทางของตลาดยังขาดเสถียรภาพ นอกจากนั้นตลาดยังเฝ้ารอข้อมูลผู้บริโภคสหรัฐซึ่งจะได้รับการเปิดเผยในคืนนี้ด้วย
"ปริมาณการซื้อขายในระดับต่ำเช่นวันนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเนื่องจากช่วงนี้มีแต่ข่าวร้ายออกมา" เค อาห์จิต นักวิเคราะห์จาก UOB Kay Hian กล่าว "ตลาดจะยังผันผวนต่อไปอีก 3 เดือน"
อย่างไรก็ตาม การปรับลดของดัชนีสเตรทส์ไทม์น่าจะอยู่ในวงจำกัด หลังผลการวิเคราะห์ตลาดเผยว่าดัชนีสเตรทส์ไทม์มีแนวโน้มแตะระดับแนวรับสำคัญระหว่างการปรับลดลง
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับลดลงหลังสถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่งเปิดเผยหนี้สูญจากวิกฤติซับไพรม์
แม้ธนาคารสิงคโปร์จะมีผลประกอบการณ์ที่แข็งแกร่ง "แต่นักลงทุนมีแนวโน้มถอนการลงทุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากยังวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากวิกฤติซับไพรม์" Macquarie Research กล่าว
หุ้นดีบีเอสกรุ๊ป ลดลง 30 เซนต์, หุ้นโอซีบีซี ลดลง 15 เซนต์ ในขณะที่หุ้นยูโอบี ลดลง 10 เซนต์
หุ้นบลูชิปที่ลดลงประกอบด้วย หุ้นเคปเพล คอร์ป ลดลง 20 เซนต์, หุ้นสิคโปร์ แอร์ไลน์ส ร่วง 50 เซนต์, หุ้นสิงคโปร์ เอ็กซ์เชงจ์ ลดลง 20 เซนต์ และ หุ้น SembCorp Industries ลดลง 25 เซนต์
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับลดลงหลังรัฐบาลได้เข้ามาแทรกแซงเพื่อลดความร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยหุ้นแคปปิตัลแลนด์ ลดลง 15 เซนต์ และหุ้นเคปเพลแลนด์ ลดลง 25 เซนต์ ส่วนหุ้นซิตี้ เดเวลอปเมนท์ ยังทรงตัวปิดที่ 14.20 ดอลลาร์ หลังบริษัทเผยผลกำไรสุทธิไตรมาสสามที่เพิ่มขึ้น 32.1%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--