นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะโตตามเป้าที่ 1.2 พันล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีรายได้แล้ว 520 ล้านบาท และในช่วงครึ่งปีหลังก็คาดว่ายอดขายในตลาดต่างประเทศจะเติบโตต่อเนื่องตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจ แม้จะยังเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 อยู่บ้าง โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้การส่งออกคิดเป็น 30-40% ของรายได้รวม
ขณะที่ ณ วันที่ 16 ส.ค. บริษัทมีปริมาณงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ราว 465 ล้านบาท ซึ่งจะพยายามรับรู้รายได้ในปีนี้ให้ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะงานหม้อแปลงไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มูลค่าราว 115 ล้านบาทที่ชนะการประมูลมา บริษัทได้ทยอยส่งมอบสินค้าล็อตแรกไปแล้ว และคาดว่าจะส่งมอบให้ครบตามแผนในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้
ส่วนแผนธุรกิจพลังงาน บริษัทจะเข้าประมูลงานสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนขนาด 150 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลภายในสัปดาห์หน้า โดยบริษัทคาดหวังจะได้งานราว 30%
สำหรับปัญหาราคาวัตถุดิบเหล็กและทองแดงที่ปรับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันเริ่มปรับตัวลดลงมาแล้ว และคาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติใน 1-2 เดือนนี้ แต่อย่างไรก็ตามยังคงเผชิญความท้าทายจากปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ โดยบริษัทได้แก้ปัญหาด้วยการสั่งจองตู้ล่วงหน้าหรือให้ทาง Supplier และตัวแทนจำหน่าย ช่วยหาตู้อีกทางหนึ่ง
นายพูลพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า แผนการเติบโตในระยะยาว 3-5 ปีของบริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองลูกค้า รวมถึงการขยายช่องทางการจำหน่ายต่างๆ และส่งเสริมงานบริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังให้ความสำคัญในธุรกิจพลังงานและพลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในระยะยาว
"ภาพอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าที่ผ่านมาแม้ว่าตลาดในประเทศจะเผชิญกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่ยอดขายในตลาดต่างประเทศยังคงเติบโตได้ดี โดยคิดเป็น 30-40% ของรายได้ทั้งหมดของเรา และเรายังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจพลังงานและพลังงานสะอาดมากขึ้น ตอนนี้กำลังรอผลการประมูลสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนขนาด 150 เมกะวัตต์ที่จะออกมาในช่วงสัปดาห์หน้า เราหวังจะได้งานสัก 30% โดยหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นสินค้าจำเป็นในการสร้างโรงไฟฟ้าอยู่แล้ว ทำให้เรายังคงเตรียมพร้อมที่จะเข้าประมูลงานด้านนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทอีกช่องทางหนึ่ง" นายพูลพิพัฒน์ กล่าว