MALEE คาดปี 51 ยอดขายน้ำผลไม้โตต่อเนื่องจากปีนี้ที่เติบโต 30%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 22, 2007 15:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางสาวสุวรรณา โชคดีอนันต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.มาลี สามพราน(MALEE) เปิดเผยว่า คาดว่ายอดขายน้ำผลไม้ของบริษัทในปีนี้จะยังโตต่อเนื่องจากปีนี้ที่คาดว่าจะโต 30% เนื่องจากตลาดน้ำผักและน้ำผลไม้ยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี เพราะคนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น มีผู้ประกอบการรายใหม่ๆเข้ามาช่วยกันทำตลาดมากขึ้น ทยอยส่งสินค้าใหม่สู่ตลาดอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มประเภทนี้ยังเป็นที่ต้องการของตลาด
"สาเหตุที่เรามั่นใจว่าจะโต คือโตเพราะตัวเองที่เปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง และมีคนอื่นๆเข้ามาช่วยกันทำตลาด ซึ่งมองว่าการแข่งขันของตลาดน้ำมผลไม้ในปี 51 จะยังสูงขึ้น และจะมีผู้ประกอบการรายใหม่ๆเข้ามาในตลาดอีก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรายเล็กๆ จับตลาดล่าง และส่วนใหญ่ก็อาจจะใช้กลยุทธตัดราคา ขณะที่ตลาดพรีเมี่ยมน่าจะมีสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาร่วมทำตลาดอีกประมาณ 1-2 ราย"
นางสาวสุวรรณา กล่าวเสริมว่า ตลาดน้ำผลไม้ระดับพรีเมี่ยมในประเทศไทยถือว่ายังมีทิศทางการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากอัตราการบริโภคน้ำผักและน้ำผลไม้ของคนไทยน้อยมากเฉลี่ยเพียง 3 ลิตร/คน/ปี เมื่อเทียบกับยุโรปที่อัตราการบริโภคอยู่ที่ 22 ลิตร/คน/ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดยังมีช่องว่างให้ทำตลาดได้อีกมาก
ในส่วนของมาลีเอง ปีหน้าจะยังมีการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งคิดค้นและพัฒนาสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยคาดหวังว่า อีกไม่นานน้ำผลไม้ MALEE จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดในที่สุด โดยปัจจุบัน มาลีมีส่วนแบ่งตลาดในตลาดรวมน้ำผลไม้ทุก segment ที่ 15-16% ใกล้เคียงกับยูนิฟ ส่วนเจ้าตลาดคือ ทิปโก้ มีส่วนแบ่งตลาด 25-26%
สำหรับสินค้าใหม่ล่สุด "มาลี Veggies V9" จะเป็นสินค้าตัวสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกช่องทางจำหน่ายใน เดือน ม.ค.-ก.พ.51
"เรื่องราคา ยอมรับว่าสินค้าของเราราคาอาจจะแพงกว่าคู่แข่งอยู่เล็กน้อย แต่ถ้าดูจากคุณภาพ ผู้บริโภคจะเห็นว่าคุ้มค่า"
"มาลี Veggies V9" น้ำผักผลไม้ 100% 4 รสชาด ได้แก่ สูตรผสมเรดบีท, สูตรผสมแครอทและผักผลไม้สีส้มรวม 9 ชนิด, สูตรผสมกีวี และสูตรผสมแครอทม่วง มี 2 ขนาด คือ 1 ลิตร ราคา 75 บาท และ 200 ซีซี ราคา 20 บาท
นางสาวสุวรรณา กล่าวว่า จะวางตลาด"มาลี Veggies V9"ให้ครอบคลุมทั่วประเทศก่อนแล้วจึงจะเริ่มส่งไปขายต่างประเทศ
MALEE มีรายได้กว่า 50% มาจากธุรกิจตราผลิตภัณฑ์ ซึ่งดูแลการตลาดและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมาย MALEE ทั้งน้ำผลไม้และผลไม้กระป๋อง ส่วนอีก 50% มาจากธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตรและแปรรูป, ธุรกิจการผลิตสินค้าประเภทเครื่องดื่มทั้งธุรกิจตราผลิตภัณฑ์ของบริษัทและภายใต้ตราผลิตภัณฑ์ของลูกค้าเพื่อจำหน่ายทั้งใน และต่างประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ