การสร้างความยั่งยืนสามารถทำได้หลายรูปแบบ ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ธนาคารสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการช่วยยกระดับสังคมให้ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน โดยในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา สิ่งที่ธนาคารทำนั้นเป็นการเร่งช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบให้ได้มากที่สุด จากการที่มีโครงการด้านการเงินต่างๆ ออกมาช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้า เพราะเป็นปัจจัยที่ทุกคนไม่เคยคาดคิด และไม่ได้เตรียมความพร้อมมาก่อน เพื่อให้ลูกค้าสามารถผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ รวมถึงการเข้าไปช่วยลูกค้าปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจให้มีความยั่งยืนมากขึ้นเพื่อที่จะร่วมกันฝ่าฝันวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ ส่งผลให้ธนาคารและลูกค้าสามารถเติบโตไปได้พร้อมกับอย่างยั่งยืน "เราต้องต้องมองไปที่การสร้างกำไรในระยะยาว แม้ว่าเราจะต้องแลกกับความเจ็บปวดในระยะสั้นมาก่อน แต่เป็นสิ่งที่ดีที่เราจะได้รับความไว้วางใจ และได้รับความเชื่อมั่นในระยาวจากลูกค้าและสังคม" นางสาวขัตติยา กล่าว
ขณะเดืยวกัน ในช่วงที่ผ่านมากระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาสินเชื่อให้กับลูกค้า ธนาคารได้นำเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ ESG เข้ามาประกอบใช้ในเครื่องมือในการพิจารณาสินเชื่อให้กับลูกค้า เพื่อเป็นการร่วมสร้างความยั่งยืนในระบบนิเวศน์ทั้งหมดอย่างจริงจัง และทำให้ธนาคารได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาบันการเงินที่ร่วมสร่างความยั่งยืนให้กับสังคมอย่างแท้จริง โดยมีปัจจัยภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญและเร่งด่วนที่ธนาคารกสิกรไทยให้ความสำคัญ เพราะธนาคารต้องการเป็นส่วนหนึ่งไนการขับเคลื่อนการบรรเทาผลกระทบที่มาจากภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปให้กับสังคมได้มากที่สุด โดยจะเห็นว่าหลายๆประเทศที่พัฒนาแล้วในโลกได้มีการเดินหน้าอย่างจริงจังไนการขับเคลื่อนประเทศให้มีการปล่อยคาร์บอนไบออกไซด์เป็นศูนย์ (Net Zero) ตามข้อตกลงปารีส ซึ่งสิ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนให้การดำเนินการในด่านการผลักดันความนั่งยืนธนาคารมองว่าผู้ประกอบการ ลูกค้า หน่วยงานกำกับ และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อสร้างระบบนิเวศน์ในการสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และยังต้องมีการเสริมสว้างความยั่งยืนให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อทำให้เกิดขึ้นได้จริงอย่างเร็วที่สุด เพื่อเป็นการส่งมอบโลกที่ดีให้กับคนรุ่นหลัง