นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ กรรมการและกรรมการบริหาร บมจ.ซี เอ แซด (CAZ) เปิดเผยว่า บริษัทคาดกำไรในไตรมาส 3/64 จะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 2/64 เนื่องจากล่าสุดได้รับงานโครงการใหม่มูลค่ารวมราว 662 ล้านบาท ซึ่งมีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ค่อนข้างสูง เรียกได้ว่าสูงที่สุดตั้งแต่เปิดบริษัทมา
ประกอบด้วย 1. โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว หนองแฟบ จังหวัดระยอง มูลค่าโครงการ 330 ล้านบาท โดยดำเนินการตามแผนเร่งงานก่อสร้าง งานโยธา งานโครงสร้าง งานเครื่องกล งานท่อบนโครงสร้างสะพานเทียบเรือรับก๊าซ เพื่อสอดคล้องตามกำหนดการงาน Early Gas Send Out มีระยะเวลาก่อสร้าง 7 เดือน
2. โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว หนองแฟบ จังหวัดระยอง มูลค่าโครงการ 237.21 ล้านบาท โดยดำเนินงานจัดหา ผลิตขึ้นรูปและติดตั้ง งานโยธา งานโครงสร้าง งานเครื่องกล งานท่อ งานไฟฟ้า และเครื่องมือวัด งานทดสอบเดินระบบสำหรับท่อขนถ่ายผลิตภัณฑ์ก๊าซธรรมชาติเหลว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 28 นิ้ว ระยะเวลาก่อสร้าง 13 เดือน
3. โครงการพลังงานสะอาด จังหวัดชลบุรี มูลค่าโครงการ 52.67 ล้านบาท ดำเนินงานในส่วนของจัดหาและผลิตขึ้นรูปชิ้นงาน ท่อไอน้ำขนาบท่อ, เหล็กโครงสร้างรองรับท่อ, ท่อขนาดเล็ก มีระยะเวลาในการก่อสร้าง 17 เดือน
4. โครงการออกแบบวิศวกรรม การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ และการก่อสร้างและติดตั้งหอเผาชนิด Enclosure Ground Flare (EGF) ของโรงกลั่นบางจาก จังหวัดกรุงเทพมหานคร มูลค่าโครงการ 41.50 ล้านบาท โดยดำเนินงานติดตั้งอุปกรณ์นิรภัย (แผ่นนิรภัย, วาล์วนิรภัย) มีระยะเวลาก่อสร้าง 14 เดือน
ขณะที่บริษัทยื่นประมูลงานโครงการใหม่ไปแล้วมูลค่ารวมราว 1,800 ล้านบาท ได้แก่ งานโครงการพลังงานสะอาด โรงกลั่น ของบมจ.ไทยออยล์ (TOP) มูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานต่อเนื่องจากงานเดิม บริษัทจึงคาดหวังว่าน่าจะได้รับงานดังกล่าว, โครงการของ บมจ.ปตท. (PTT) มูลค่า 900 ล้านบาท และ 800 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรู้ผลการประมูลทั้งหมดในไตรมาส 4/64 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนงานในมือ (Backlog) ให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีอยู่ราว 5,000 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 66
ส่วนแผนการเข้าประมูลงานในปี 65 ก็คาดว่าจะมีงานออกมาประมูลราว 3,000-6,000 ล้านบาท บริษัทก็คาดหวังจะได้รับงานไม่ต่ำกว่าเดิม หรือราว 60% ของมูลค่าที่เข้าประมูล