นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า บ่ายวันนี้ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการของ NOK พร้อมแต่งตั้งผู้ทำแผน 4 คนตามที่บริษัทเสนอ ซึ่งปรับลดลงจากเดิม 6 ราย ได้แก่ นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร นายปริญญา ไววัฒนา นายไต้ ชอง อี และ นายชวลิต อัตถศาสตร์ ซึ่งทั้งหมดเป็นกรรมการของบริษัท
"ศาลล้มละลายกลางเห็นชอบแผนฟื้นฟู เป็นการปลดล็อกให้เราเข้าไปทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น ...เราคาดว่าเราจะออกจากแผนฟื้นฟูใน 5 ปี เราทำแผนแบบ Conservative" นายวุฒิภูมิ กล่าว
ทั้งนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NOK กล่าวว่า ก่อนเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทได้เพิ่มทุนทำให้มีเม็ดเงินเข้ามา 2,300 ล้านบาท และกู้ยืมจากผู้ถือหุ้นใหญ่อีก 2,700 ล้านบาท รวมได้เงิน 5,000 ล้านบาท ทำให้ในช่วงวิกฤติโควิดบริษัทสามารถมีสภาพคล่องใช้ในช่วง 2 ปีนี้ หลังจากนี้ คาดว่าจะขอวงเงินกู้จากผู้ถือหุ้นใหญ่เพิ่มเติม ซึ่งก็ขึ้นกับผลประกอบการของบริษัท ส่วนการขอกู้จากเอ็กซิมแบงก์ก็ติดเงื่อนไขให้กู้ได้ 30% ของวงเงินกู้ที่มีกับสถาบันการเงิน ซึ่ง NOK ไม่มีเงินกู้ในส่วนนี้จึงไม่สามารถหาแหล่งเงินกู้ส่วนนี้ได้
หลังจากนี้ NOK จะขอรับเงินกู้จากผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ยังเหลือวงเงินอยู่ 300 ล้านบาท จากที่ใช้ไปแล้ว 2,700 ล้านบาท เพื่อนำไปเป็นเงินมัดจำค่าเช่าเครื่องบินใหม่ 6 ลำ โดยอยู่ระหว่างรอกระทรวงคมนาคม โดยสำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศไทย (CAAT) อนุมัติ เพื่อนำมาใช้บินเส้นทางใหม่ คือ เบตง, นครราชสีมา, หัวหิน และ อู่ตะเภา รวมทั้งเพิ่มความถี่เส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น อินเดีย จีน ที่จะมีทั้งเส้นทางบินเดิม และเส้นทางใหม่ โดยที่ญี่ปุ่น ศึกษาที่จะทำการบินไปนาโกย่า โอซาก้า หลังจากได้บินไปฮิโรชิม่า ส่วนในจีน ก็จะนำเส้นทางที่สายการบินนกสกู๊ตเคยทำการบินมาศึกษาว่าเมืองไหนเหมาะสม
นายวุฒิภูมิ กล่าวอีกว่า บริษัทยังศึกษาเส้นทางบินใหม่ๆ ในต่างประเทศที่ใช้ระยะเวลาบินไม่เกิน 6 ชั่วโมง หลังจากเห็นแนวโน้มความต้องการเดินทางอาจจะไม่มากเท่าในอดีต ทำให้บางสายการบินลดความถี่ลง ฉะนั้น การนำเครื่องบินที่มีลำตัวแคบอย่างของ NOK มาบินในระยะดังกล่าวน่าจะได้เปรียบกว่าการนำเครื่องบินลำตัวกว้างมาให้บริการ
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากันพันธมิตรสายการบินต่างประเทศ เพื่อร่วมทำโค้ดแชร์ หรืออินเตอร์ไลน์ ด้วยกัน
นายวุฒิภูมิ กล่าวเพิ่มติมว่า บริษัทจะมีการปรับปรุงสัญญาบริการซ่อมบำรุงเครื่องบิน เพื่อสต็อกอะไหล่ให้มากขึ้น รวมทั้งจะเจรจาทำสัญญาบริการซ่อมบำรุงเครื่องบินเข้ามาเพิ่มอีก 1 ราย เพื่อรองรับเครื่องบินใหม่ที่เข้ามาเพิ่มเติม รวมถึงการทำสัญญาจ้างการให้บริการ Call Center เพื่อตอบและให้ข้อมูลกับผู้โดยสารเพิ่มจากเดิมที่มีอยู่แล้ว
สำหรับแผนงานในช่วงไตรมาส 4/64 ซึงเป็นช่วงไฮซีซั่นนี้ นายวุฒิภูมิ กล่าวว่า บริษัทเตรียมเพิ่มความถี่หลังวันที่ 15 ต.ค.เป็นต้นไปเพื่อรองรับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ที่เริ่มโครงการ 15 ต.ค.นี้ และเพิ่มอีกในวันที่ 1 พ.ย.นี้ที่เปิดท่องเที่ยว 5 จังหวัด
อย่างไรก็ดี แม้จะมีการกระตุ้นท่องเที่ยวจากภาครัฐ แต่แนวโน้มธุรกิจการบินในประเทศในไตรมาส 4/64 คงยังไม่ดีเท่าปีก่อน เพราะมีการเข้มงวดมาตรการเข้าออกแต่ละจังหวัด และสิทธิประโยชน์ของมาตรการต่างๆ ก็น้อยกว่าปีก่อน ทำให้กระตุ้นการเดินทางได้ไม่มากนัก โดยในเดือน ต.ค.64 มียอดขายตั๋วโดยสารไม่ถึง 25% ของช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนเดือน พ.ย. -ธ.ค.64 ก็ยังไม่เห็นยอดจองมากนัก เพราะส่วนใหญ่ขณะนี้จะจองล่วงหน้าก่อนบินเพียง 7 วัน และพฤติกรรมการเดินทางน้อยลงไป ทั้งนี้ คาดว่าอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor)ในไตรมาส 4/64 ประมาณ 60%
แต่คาดว่าในปี 65 การท่องเที่ยวน่าจะกลับมาคึกคักจากนักท่องเที่ยวจีนกลับมา โดยไทยมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนมากที่สุด นอกจากนี้ในไตรมาส 2/65 คาดว่าไทยจะทำข้อตกลง Travel Bubble กับประเทศต่าง ๆ ด้วย