นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. มุ่งมั่นยกระดับการให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร โดยให้ความสำคัญกับการขยายโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร (SMAEs) สหกรณ์ และวิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าผ่านการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่กว้างขวางมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society)
ดังนั้น ธ.ก.ส. จึงได้ร่วมมือกับ บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดช่องทางรับชำระค่าสินค้าและบริการให้แก่ผู้ประกอบการภาคการเกษตรที่เป็นสมาชิกร้านน้องหอมจังของธ.ก.ส. ด้วย QR Credit Card Payment บนเครือข่ายของวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้าชุมชนสร้างไทย ที่พัก โฮมสเตย์ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ร้านค้าปลีก ชุมชนท่องเที่ยว รถเช่า รถโดยสาร และรถทัวร์ เป็นต้น ซึ่งประโยชน์จากความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างสองหน่วยงานจะช่วยให้เศรษฐกิจฐานรากมีความแข็งแกร่ง ส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน
และคาดว่าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายลงจะเป็นโอกาสที่ประชาชนได้มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นและจะทำให้ผู้ประกอบการและชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งการเปิดบริการชำระด้วย QR Credit Card Payment อันเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคซึ่งจะช่วยให้เกิดความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินสดอีกด้วย
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC กล่าวว่า แนวโน้มการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิตในรูปแบบของ QR Code มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 8 เดือนของปี 64 มียอดใช้จ่ายด้วยรูปแบบดังกล่าวมูลค่า 110 ล้านบาท หรือเติบโต 90% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และจากเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ยิ่งเป็นปัจจัยเร่งให้ผู้บริโภคคนไทยเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ทั้งการจ่ายค่าสินค้าและบริการ รวมถึงการทำธุรกรรมการเงินผ่านออนไลน์ ในขณะที่ร้านค้าต่างก็ต้องปรับตัวและเปิดรับการชำระเงินที่ไร้การสัมผัสมากขึ้น
โครงการต่อยอดบริการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิตผ่านระบบ QR Credit Card Payment บนเครือข่ายของวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดในครั้งนี้ เป็นการผนึกความร่วมมือกับ ธ.ก.ส.และเป็นการต่อยอดการทำงานจากปีก่อนหน้าที่รับชำระด้วย QR Code ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) ของ Alipay เพียงอย่างเดียว เพื่อมุ่งสู่นโยบายการให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร พร้อมขยายโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน กลุ่ม Smart Farmer และกลุ่มร้านค้าขนาดเล็ก (Micro Merchants) โดยจะเปิดให้บริการช่วงเดือน ธ.ค.64 นี้ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงจังหวะที่สอดรับกับการเปิดประเทศรับการท่องเที่ยวพอดี และมีแนวโน้มว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในไตรมาส 4/64 ก็จะสูงกว่าไตรมาส 3/64 หากไม่มีการปิดเมืองอีกครั้ง และประชาชนปฏิบัติตามนโยบายภาครัฐอย่างเคร่งครัด
และตั้งเป้าหมายว่าสิ้นปีนี้จะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการถึง 2,500 ร้านค้า โดยเฉพาะจากร้านค้าน้องหอมจังของ ธ.ก.ส.ที่มีอยู่ทั้งหมด 24,000 ร้านค้า ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถใช้บริการชำระทางอิเล็กทรอนิกส์ได้หลากหลายและกว้างขวางมากขึ้น
"เราหวังว่าโครงการขยายช่องทางรับชำระเงินผ่าน QR Credit Card Payment ในครั้งนี้ จะช่วยให้ร้านน้องหอมจังของ ธ.ก.ส. ขายสินค้าและบริการได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น และสร้างรายได้จากยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพจากฐานบัตรลูกค้าที่ KTC มีอยู่ราว 2 ล้านราย ในขณะเดียวกันก็สามารถตอบโจทย์ลูกค้าคนไทยที่ถือบัตรเครดิตวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการชำระเงินที่สะดวก รวดเร็ว และยังได้รับสิทธิประโยชน์พื้นฐานจากบัตรเครดิตอีกด้วย ซึ่ง KTC ได้เตรียมความพร้อมด้านระบบการชำระเงินที่เข้มแข็งตามมาตรฐานสากลไว้รองรับ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี และมั่นใจได้ว่าทุกการใช้จ่ายมีความปลอดภัย" นายระเฑียร กล่าว