ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าผันผวน ตามตลาดตปท.,ลุ้นกลุ่มพลังงานหนุนหลังน้ำมันพุ่ง

          นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวน แต่จะผันผวนน้อยกว่าเมื่อวานนี้(20 พ.ย.) ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้ามีการแกว่งตัวทั้งบวก-ลบ โดยมีตลาดฮ่องกงปรับตัวลงมากสุดติดลบ 2% 
          ทั้งนี้ เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะได้รับแรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสูง แต่ตลาดฯก็มีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้หากยังไม่อิงกับปัจจัยลบที่ยังมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของซับไพร์ม, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น และเรื่องของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนตัวลง ซึ่งภาพของตลาดสหรัฐฯขณะนี้ยังเป็นลบอยู่
          "เมื่อวานนี้ที่ตลาดหุ้นไทยผันผวนเราไม่ได้เล่นประเด็นข่าวเรื่องที่เฟดจะมีประชุมด่วนทั้งหมด และเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีสาระอะไรเกิดขึ้นจริงอย่างที่มีข่าว ดังนั้นเชื่อว่าวันนี้ตลาดฯก็ไม่น่าจะปรับตัวลงแรง คงเป็นแค่การผันผวนเล็กน้อยตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคมากกว่า"นายอนุพนธ์ กล่าว
          อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่าวานนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นไทยออกมาค่อนข้างมาก ทั้งนี้ ได้ให้แนวต้านไว้ที่ 835-837 จุด ส่วนแนวรับ 820-815 จุด พร้อมแนะทยอยซื้อหุ้นเมื่อดัชนีลงมาต่ำแถว 820 จุด
          ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(20 พ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,010.14 จุด เพิ่มขึ้น 51.70 จุด(+0.40%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,439.70 จุด เพิ่มขึ้น 6.43 จุด(+0.45%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,596.81 จุด เพิ่มขึ้น 3.43 จุด (+0.13%)  
          - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,881.07 ล้านบาทเมื่อวานนี้
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 98.03 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.39 ดอลลาร์
          - วานนี้หุ้นเอเชียป่วน ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ผันผวนหนัก เก็งข่าวเฟดประชุมฉุกเฉิน "ธีระชัย" ระบุ ก.ล.ต.โลก  ถกปัญหาซับไพร์มกระทบเศรษฐกิจโลก ตั้งทีมงานศึกษาหาทางรับมือ ระบุสหรัฐควรทบทวนกฎระเบียบเพื่อป้องกันปัญหาหนี้ในอนาคต ประเมินหุ้นผันผวนอีกหลายเดือน ภายหลังเฮดจ์ฟันด์ขายหุ้น ปลอบนักลงทุนดัชนีผันผวนหนักไม่ใช่ปั่นหุ้น
          - นักวิเคราะห์รอลุ้นเฟดประชุม 11 ธ.ค. ชี้ชะตาราคาน้ำมันโลก หากลดดอกเบี้ยได้เห็น 100 ดอลลาร์/บาร์เรลแน่ ขณะที่ "โฆสิต" มั่นใจไม่พุ่งถึงลิตรละ 70 บาท ยกเว้นเกิดสงคราม ลั่นพร้อมแทรกแซงหากราคาผิดปกติ ด้าน ปตท. เตรียมปรับราคาอีกรอบ ยอมรับภาระหนักอุ้มแอลพีจี
          - ค่ายรถแห่ปรับราคาลงอีก 5% รับภาษีสรรพสามิตใหม่ ใช้เชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งผลราคาลดลง 5% ค่ายฟอร์ดนำร่อง มีผลตั้งแต่ 20 พ.ย.นี้ ขณะที่ ฮอนด้า-นิสสัน ดีเดย์ปีหน้า
          - เตรียมจะปรับขึ้นราคาแก๊ส 1.30 บาท/กิโลกรัม ในสัปดาห์หน้า ผลดังกล่าวทำให้แก๊สหุงต้มถังขนาดมาตรฐานที่ใช้ตามบ้าน (15 กิโลกรัม) คาดปรับขึ้นถังละ 19-20 บาท จากปัจจุบันราคาขายปลีก 250-260 บาท
          - ผู้ประกอบการเรือโดยสารขอความเป็นธรรมจาก  รมช.คมนาคม หลังกรรมการเรือฯ ยันขึ้นค่าโดยสารฯ 15 ม.ค. ปีหน้า(2551)
          - ตลท.เปิดกลยุทธ์สร้างความแข็งแกร่งให้ตลาดทุนไทย ชูภาพลักษณ์องค์กรต้องโปร่งใส เล็งดึงตลาดหุ้นในภูมิภาคผนึกกำลังเพิ่มความน่าสนใจให้กลุ่มตลาดทุนอาเซียน พร้อมตั้งเป้าดึงบจ.ใหม่ระดมทุนปีหน้าอย่างต่ำ 27 บริษัทมาร์เกตแคปกว่า 3 แสนล้านบาท เปรยมีบิ๊กไซด์มากกว่าหมื่นล้านถึง 5 บริษัท ขณะที่เตรียมเจาะฐานนักลงทุนทั้งเยาวชน คนทำงาน และวัยเกษียร พร้อมหาสินค้าใหม่เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ เล็งจัดสัมมนาให้พรรคการเมืองประชันแผนพัฒนาตลาดทุนต้นเดือนหน้า
          - แหล่งข่าวจากกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า ศาลปกครองสูงสุดได้นัดฟังคำแถลงคดีเป็นครั้งแรก ในวันที่ 30 พ.ย.50นี้ หลังจากเมื่อวันที่ 28 ก.ย.50 ที่ผ่านมาศาลฯงดรับข้อมูลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับคดีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ยื่นฟ้องขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาเพิกถอนพระราชกำหนดอำนาจสิทธิประโยชน์ของ PTT พ.ศ. 2544 และพระราชกำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2544 ซึ่งในวันดังกล่าวบริษัทจะเข้าร่วมรับฟังคำแถลงด้วย ส่วนกระบวนการตัดสินชี้ขาดนั้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนธ.ค.หรือก่อนวันที่ 23 ธ.ค.นี้แน่นอน