บมจ.ชิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทเมื่อวันที่ 30 ก.ค.64 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท เอส จี แคปปีตอล จำกัด (SGC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SINGER ถือหุ้น 99.99% แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดและเพิ่มทุนจดทะเบียน 820,000,000 บาท แบ่งเป็น 820,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25.1% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ SGC เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) รวมถึงผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทฯ (Pre-emptive Right)
ทั้งนี้ แผนการ spin-off จะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ SGC ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ให้เสนอขายหุ้น IPO และได้รับอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้รับหุ้นสามัญของ SGC เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน คาดว่าแล้วเสร็จภายในปี 65
วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ SGC เพื่อเป็นงินทุนในการประกอบธุรกิจหลัก และการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคต
SGC จะดำเนินการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นของ SINGER ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Righ) ในราคาเสนอขายเดียวกับการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นได้เข้าลงทุนใน SGC และช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดกับผู้ถือหุ้นจากการที่สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทใน SGC ลดลงจาก 99.99% ของทุนจดทะเบียนของ SGC เหลือประมาณ 74.9% ของทุนจดทะเบียนของ SGC (คิดคำนวณจากการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก รวมถึงการเสนอขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทฯ
โดยมอบหมายคณะกรรมการบริษัทหรือกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือบุคคลที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมายเป็นผู้พิจารณากำหนดวัน กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้นดังกล่าว (Record Date) เงื่อนไขและรายละเอียดอื่น ๆเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ดังกล่าวของ SGC รวมถึงการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนของ SGC ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทดังกล่าวให้สำเร็จลุล่วง
SGC ดำเนินธุรกิจเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน จักรเย็บผ้า สินค้าเชิงพาณิชย์ สินเชื่อรถทำเงิน และเช่าซื้อเครื่องจักร ณ วันที่ 30 ก.ย.64 มีทุนจดทะเบียน 2,450,000,000 บาท แบ่งเป็น หุ้นสามัญจำนวน 2,450,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000 บาท และมีทุนชำระแล้ว 2,450,000,000 บาท