ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่อ่อนตัวลงหลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงและเงินเฟ้อมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มสูงขึ้น
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 3.2 จุด หรือ 0.05% แตะระดับ 6,381.9 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.88 พันล้านหุ้น
นักวิเคราะห์จากเทรดดิ้ง เซนทรัลในอังกฤษกล่าวว่า "ดัชนี FTSE เคลื่อนตัวผันผวนตลอดทั้งวันและคาดว่าดัชนีมีแนวโน้มอ่อนตัวลงอีกในระยะสั้น โดยเราคาดว่าแนวรับจะตั้งรออยู่ที่ 6290-6225 จุด และคาดว่าแนวต้านจะตรึงอยู่ที่ 6435-6595 จุด"
"แม้ตลาดปิดในแดนลบ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ขานรับธนาคารกลางอังกฤษที่ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 5.75%" เขากล่าว
ขณะที่นายปีเตอร์ ดิกซอน นักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซแบงค์ แสดงความเห็นว่า "ตลาดหุ้นลอนดอนมีเสถียรภาพมากขึ้น และคาดว่าหุ้นกลุ่มเหมืองแร่จะเป็นกลไกขับเคลื่อนตลาด อย่างไรก็ตาม คาดว่าหุ้นกลุ่มการเงินมีแนวโน้มซบเซาเนื่องจากสถาบันการเงินหลายแห่งในอังกฤษยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขขาดทุนในตลาดซับไพรม์ เราจึงไม่รู้ว่าภาพรวมที่แท้จริงในธุรกิจการเงินเป็นอย่างไร"
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูข่าวควบรวมกิจการของบริษัทเหมืองแร่ โดยล่าสุดมีข่าวว่าบริษัทรีโอตินโตปฏิเสธข้อเสนอควบกิจการจากคู่แข่งรายสำคัญอย่างบีเอชพี บิลลิตัน ทั้งนี้ หุ้นรีโอตินโตพุ่งขึ้น 21% แต่หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 100 เพนซ์ ปิดที่ 1,656 เพนซ์
ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินยังคงอ่อนตัวลงอันเนื่องมาจากความกังวลเรื่องภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สร่วงลง 27.5 เพนซ์ ปิดที่ 486 เพนซ์ หุ้นธนาคารรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ รูดลง 23 เพนซ์ ปิดที่ 415 เพนซ์ หุ้นธนาคารนอร์ทเธิร์นร็อคขยับลง 2 เพนซ์ ปิดที่ 150 เพนซ์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--