ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลเรื่องปัญหาในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์) อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นธนาคารนอร์ทเธิร์นร็อค
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 81.6 จุด หรือ 1.3% แตะระดับ 6,180.5 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 6,180.5-6,307.8 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.1 พันล้านหุ้น
หุ้นเอชเอสบีซีซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของอังกฤษ ร่วงลง 15-1/2 เพนซ์ ปิดที่ 811-1/2 เพนซ์ หลังจากมีข่าวว่าเอชเอสบีซีได้จัดหาเงินประมาณ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนกองทุน 2 แห่งที่ลงทุนในตราสารปรับโครงสร้าง (SIV) ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะผันผวนในตลาดสินเชื่อ
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ได้ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเอชเอสบีซีลงสู่ระดับ "sell" และคาดว่าเอชเอสบีซีอาจจะต้องตั้งสำรองหนี้สูญอีก 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากขาดทุนในตลาดซับไพรม์ในสหรัฐ
ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มการเงินนั้น หุ้นอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีเซสเตอร์ ดิ่งลง 31 เพนซ์ ปิดที่ 614 เพนซ์ หลังจากหลังจากนักวิเคราะห์ของอ็อบเซิร์ฟเวอร์คาดการณ์ว่า อัลไลอันซ์ แอนด์ ลีเซสเตอร์ อาจต้องตั้งสำรองหนี้สูญเนื่องจากขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองเช่นกัน
ขณะที่หุ้นธนาคารลอยด์ ทีเอสบี ร่วงลง 14.5 เพนซ์ ปิดที่ 455.5 เพนซ์ และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สร่วงลง 13.5 เพนซ์ ปิดที่ 497 เพนซ์
หุ้นแอสทราซิเนก้าซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งลง 43 เพนซ์ ปิดที่ 2,232 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของเดรสเนอร์ ไคลน์เวิร์ต ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอสทราซิเนก้าลงสู่ระดับ "sell" จากระดับ "reduce"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--