นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โคลเวอร์ เพาเวอร์ (CV) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เพื่อการตรวจสอบฐานะทางการเงินของกิจการ ( Due Diligence) โรงงานผลิตชีวมวลอัดเม็ดในเวียดนาม 2 โครงการ มูลค่าราว 260 ล้านบาท หากการทำ Due Diligence เรียบร้อยจะนำโครงการเข้าพิจารณาโดยคณะกรรมการบริษัทอีกครั้ง ซึ่งแผนการพิจารณาลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำยุทธศาสตร์การลงทุนในระยะยาวของบริษัท
ทั้งนี้ การทำ Due Diligence ทั้ง 2 โครงการดังกล่าว แบ่งเป็น 1.) โรงงานผลิตชีวมวลอัดเม็ด กำลังการผลิต 140,000 ตัน/ปี และสัมปทานการปลูกป่าที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตมากกว่า 10,000 เฮกตาร์ (ปริมาณสำรองวัตถุดิบมากกว่า 300,000 ตัน/ปี) โดย CV จะพิจารณาสัดส่วนถือหุ้นหลักที่ 60% คาดว่าจะสร้างรายได้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท/ปีหาก COD ได้เต็มกำลังการผลิต
และ 2.) โรงงานผลิตชีวมวลอัดเม็ด กำลังการผลิต 100,000 ตัน/ปี และสัมปทานการปลูกป่าที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตมากกว่า 34,000 เฮกตาร์ (ปริมาณสำรองวัตถุดิบมากกว่า 1,000,000 ตัน/ปี) โดย CV จะพิจารณาสัดส่วนการถือหุ้นหลักที่ 60% คาดว่าจะช่วยสร้างรายได้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 430 ล้านบาท/ปีหาก COD ได้เต็มกำลังการผลิต
การพิจารณาเข้าลงทุนทั้ง 2 โครงการจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจ เพิ่มเสถียรภาพและความมั่นคงของวัตถุดิบหลักที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า และบริหารจัดการควบคุมต้นทุนของเชื้อเพลิงได้ โดยจะใช้เป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าของกลุ่ม CV ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงขายเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าอื่นๆ นอกกลุ่ม
"ในระหว่างที่รอโรงไฟฟ้าของบริษัทในประเทศญี่ปุ่นก่อสร้างแล้วเสร็จ เราสามารถขาย wood pellets ได้ทันทีจากการทำสัญญา Supply Contract 1 ? 3 ปี กับผู้ซื้อรายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น และเกาหลี ตั้งแต่ไตรมาส 1/65 โดยโรงงานผลิตชีวมวลอัดเม็ด (wood pellets) ในเวียดนามทั้ง 2 โครงการจะช่วยสนับสนุนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 65"นายเศรษฐศิริ กล่าว
สำหรับเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (wood pellets) ถือเป็น Biomass ประเภทหนึ่งที่ผ่านกระบวนการลดความชื้นและเปลี่ยนแปลงลักษณะกายภาพจากไม้สับ (Wood chips) ให้มีขนาดเล็กลงใกล้เคียงกับขี้เลื่อย (Saw dust) จากนั้นผ่านกระบวนการลดความชื้นและอัดแน่นให้เป็นแท่ง (Pellets) เพื่อสะดวกในการขนส่งและเพิ่มการเผาไหม้อย่างมีประสิทธิภาพ
เชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด มีการผลิตหลากหลายรูปแบบและยังมีคุณภาพสินค้าที่หลากหลายขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้า การให้ความร้อนกับที่อยู่อาศัย และการใช้งานประเภทอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งหนึ่งในข้อดี คือ ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล จึงช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หนึ่งในก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas) ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน(Global Warming) ถือเป็นแนวทางของ CV ที่จะมุ่งเน้นผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง