SATเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้หลังออร์เดอร์เข้า/เล็งลงทุนเพิ่ม 2 สายผลิตปี 51

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 29, 2007 11:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายวีระยุทธ กิตะพาณิชย์ กรรมการ บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี(SAT)เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้ารายได้รวมปีนี้เป็นเติบโต 17% จากเดิมตั้งไว้ที่ 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 4,250 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 750 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 4/50 
สำหรับยอดคำสั่งซื้อรวมในปีนี้ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้มีมูลค่ารวม 4,250 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปี 50-52 โดยในปี 50 จะรับรู้รายได้ 1,439 ล้านบาท และปี 51 รับรู้ฯ 1,271 ล้านบาท ที่เหลือไปรับรู้ในปี 52
นายวีระยุทธ กล่าวว่า การที่บริษัทมีปริมาณคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และการขยายฐานลูกค้ามากขึ้น ส่งผลให้รายได้เติบโตได้ดีต่อเนื่องทั้งในปีนี้และปีหน้าเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกันที่คาดว่าจะเติบโตราว 8% ในปี 51
9 เดือนแรกของปีนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์มียอดการผลิตรถทั้งหมด 933,406 คันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 4% และคาดว่าภายในสิ้นปีจะอยู่ที่ 1,277,000 คัน และปี 51 มองว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,384,000 คัน และเพิ่มเป็น 1.6-1.7 ล้านคันในปี 53
นายวีระยุทธ กล่าวว่า ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin)ในปี 50 คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 21% จากเดิมที่ 20% หลังจากบริษัทเทคโอเวอร์บริษัท ICP ซึ่งเป็นธุรกิจโรงหล่อ ซึ่งทำให้บริษัทรับรู้กำไรเข้ามา 14-15 ล้านบาท ประกอบกับที่ผ่านมา บริษัทได้มีการปรับปรุงการผลิตและการลดต้นทุนการผลิตเพื่อรักษา GP ด้วย
"เราจะพยายามหาออเดอร์ใหม่ๆมากขึ้น เพื่อรักษา Gross Profit Margin ให้อยู่ในระดับที่สูงถึงแม้ในช่วง Q3-Q4 ราคาวัตถุดิบจะเพิ่มขึ้น แต่เราก็สามารถปรับราคากับลูกค้าได้บางส่วน และครั้งนี้เราก็มี ICP มาช่วยเรา"นายวีระยุทธ กล่าว
นายวีระยุทธ กล่าวต่อว่า ในปีหน้ามีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะใช้งบลงทุนสูงกว่าปกติที่เคยลงทุนปีละประมาณ 300 ล้านบาทเพื่อเพิ่มเครื่องจักรและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตา เนื่องจากขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากคณะกรรมการในการลงทุนเพิ่มสายการผลิตคอยล์สปริงและเพลาข้าง โดยเม็ดเงินลงทุนจะนำมาจากกระแสเงินสด
นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาการเพิ่มรายได้อื่นนอกเหนือจากการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น และเพิ่มการผลิตเพื่อส่งออกโดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากขณะนี้มีสัดส่วนการส่งออกเพียง 3% ของยอดขาย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ